"เสรีพิศุทธ์" ย้ำ! ยังโหวต “พิธา” เป็นนายกฯ แนะ! หากไปต่อไม่ได้ "ก้าวไกล" ควรเสียสละเป็นฝ่ายค้าน
15 ก.ค. 2566, 14:18
วันที่ 15 ก.ค.66 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่ 2/2566 ของพรรคเสรีรวมไทย ถึงทิศทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป ว่า พรรคร่วมรัฐบาลรวมตัวกันได้ทั้งหมด 312 เสียง โดยพรรคการเมืองที่ได้คะแนนสูงสุดคือพรรคก้าวไกล จึงได้มีมติร่วมกันให้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นหน้าที่ของอีก 8 พรรคการเมืองจะต้องช่วยกันสนับสนุนให้นายพิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้
“ครั้งที่แล้ว ส.ว.ลงคะแนนเพียง 13 คน ยังขาดอยู่ 52 คน ส.ว.คนที่เคยรับปากว่าจะลงคะแนนให้ก็งดออกเสียงอีก สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา แต่ในเวลานี้ก็มีการเจรจาเพิ่มเติม แต่ตนก็หนักใจแทน ถ้าต้องโหวตอีก คุณพิธาจะสู้ต่อไปหรือไม่ หากมีโอกาส ทั้ง 8 พรรคการเมืองก็คงจะโหวตให้ แต่ถ้าไม่มีโอกาสก็คงต้องเลือกพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าว
“โหวตครั้งที่แล้ว ส.ว.ลงคะแนนเพียง 13 คน ยังขาดอยู่ 52 คน ส.ว.คนที่เคยรับปากว่าจะลงคะแนนให้ก็งดออกเสียงอีก สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา แต่ในเวลานี้ก็มีการเจรจาเพิ่มเติม แต่ผมก็หนักใจแทน ถ้าต้องโหวตอีก คุณพิธาจะสู้ต่อไปหรือไม่ หากมีโอกาส ทั้ง 8 พรรคการเมืองก็คงจะโหวตให้ แต่ถ้าไม่มีโอกาสก็คงต้องเลือกพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวต่อว่า ถ้า ส.ส.ฝั่งตรงข้าม หรือ ส.ว.ยังติดเงื่อนไขว่าไม่เอาพรรคก้าวไกลมาร่วมด้วย ก็จะไม่ผ่านเหมือนเดิม ก็เป็นเรื่องของเพื่อไทยและก้าวไกลต้องตกลงกันเองว่าจะเอาอย่างไร เรามีความคิด แต่ไม่สามารถจัดการอะไรได้
“ในที่สุดเพื่อให้มีนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ให้ได้ ก้าวไกลคงต้องเสียสละออกไปเป็นฝ่ายค้าน เพื่อให้เพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไปตามที่ประชาชนต้องการ การจัดตั้งรัฐบาลก็จะราบรื่นมากขึ้น อาจไปดึงพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคอื่นๆ เพื่อให้มีเสียงเกิน 376 เสียง เป็นไปได้”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ยังกล่าวด้วยว่า ถ้าพรรคก้าวไกลยอมเสียสละไปเป็นฝ่ายค้าน แต่ก็ต้องสนับสนุนเพื่อไทยไปเป็นรัฐบาลด้วย เราต้องเอาใจกันไว้ เผื่อวันข้างหน้าจะสนับสนุนตอบแทนซึ่งกันและกัน ไม่มีอะไรเสียหาย ทนอีกหน่อย อีกไม่นาน ถ้าเลือกใครไม่ได้ก็เลือก เสรีพิศุทธ์ เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรค 2 เปิดช่องให้เสนอนายกฯ คนนอกได้
ส่วนกรณีพรรคก้าวไกลยื่นเสนอปิดสวิตช์ ส.ว.โดยการแก้ไขมาตรา 272 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ทำไม่ได้ ตลอดที่ผ่านมา 4 ปีในสมัยประชุมที่แล้ว ครั้งนี้จะทำสำเร็จได้อย่างไร ถ้าเอาหัวกระแทกกำแพง กำแพงจะพังได้อย่างไร มีแต่หัวเราที่จะพัง ควรหาวิธีการใหม่ไปสู่ความสำเร็จ ส่วนตัวไม่เห็นด้วย แต่ก็แล้วแต่เขา อย่างไรก็ตาม การเสนอแก้ไขมาตรา 272 อาจจะเกิดคำถามจากประชาชน ว่าเหตุใดไม่ดำเนินการแก้ปัญหาประชาชนตามนโยบายที่หาเสียงไว้ แต่กลับมาแก้ปัญหาให้กับตัวเอง ตนวาาไม่เหมาะ ขอฝากพรรคที่คิดจะแก้ไข ให้คิดถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก อย่าไปคิดถึงประโยชน์ของตัวเองมากนัก