จากที่มีการแชร์ในโลกโซเชียล อาสาสมัครกู้ภัยปล่อยงู ถูกตำรวจท้องที่จับกุม โดยมีผู้เขียนข้อความลงเฟสบุ๊ค ชื่อ nick chomngam ได้เขียนข้อความลง ว่า เสียสละแล้วยังต้องมาติดคุกอิกหราประเทศกูมี เตือนใจอาสาสมัครกู้ภัย เมื่อเสียสละเพื่อสังคม แล้วถูกตำรวจจับ เหตุการณ์นี้ทำให้ผมตัดสินใจเขียนโพสนี้ขึ้นมา เพราะความรู้สึกหดหู่ที่เหล่าผู้เสียสละเพื่อสังคม จะต้องมารับชะตากรรมเช่นนี้

เมื่อน้องอั๋นเจ้าหน้าที่กู้ภัย ต้องถูกตำรวจจับ ในขณะที่กำลังจะนำงูไปปล่อย เพราะงูบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกเลื้อยคลานในพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าปี 2535 ก่อนหน้านี้น้องอั๋น ได้ถูกเชิญให้ไปร่วมสาธิตให้ความรู้เรื่องงูกับประชาชน ซึ่งงูที่ใช้อบรมคืองูที่ประชาชนแจ้งให้ไปจับ มาถึงตรงนี้คนที่ทำหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยต้องทราบเอาไว้ ว่างูที่เราจับนั้น มีงูที่เป็นสัตว์คุ้มครองอยู่ 14 ชนิด และหากจับได้ เราต้องไปลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะในการจับสัตว์คุ้มครอง ต้องถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯเท่านั้น จุดพีคอยู่ตรงที่ ทางทีมก็พยายามไปลงบันทึกประจำวันกับสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง แต่ทางเจ้าหน้าที่ให้ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ

ซึ่งพอทางน้องไป ทางอุทยานฯก็ให้ไปแจ้งกับสถานีตำรวจอีก แต่ไม่ทราบเพราะอะไร ทางตำรวจก็ไม่ได้ลงบันทึกให้ ผลสุดท้ายในขณะที่น้องอั๋นกำลังเดินทางเพื่อนำงูไปปล่อย ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ น้องพยายามอธิบาย แต่ทางตำรวจก็ไม่ฟังคำอธิบาย แม้แต่พยายามแสดงหลักฐาน ทางตำรวจก็ไม่ดูทั้งนั้น แม้แต่ผมพยายามที่จะโทรไปอธิบายแต่ทางตำรวจก็ไม่รับฟังเหตุผลใดใด ตอนนี้น้องถูกควบคุมตัวไว้ที่สภอ.บ้านหมอ สระบุรี ยังไม่รู้ว่าจะโดนข้อหาอะไรบ้าง เบื้องต้นเห็นใจทั้งคู่ ทั้งน้องที่เสียสละเพื่อสังคม และตำรวจที่ต้องทำตามหน้าที่ แต่อยากให้มีดุลพินิจยอมฟังเหตุผล และดูหลักฐานในการประกอบการตัดสินใจด้วย เพราะไม่ว่ากฏหมายจะเขียนไว้อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าที่สำคัญที่สุดคือเจตนา ผู้ใช้ต้องมีดุลยพินิจและมีคุณธรรม เพราะหากเป็นแบบนี้ กู้ภัยจะกระทำความผิดทั่วทั้งประเทศ ทั้งที่เขาเสียสละช่วยเหลือสังคมมาตลอด

และฝากถึงกรมอุทยานฯ ว่าขั้นตอนในการผ่อนผันให้กู้ภัยช่วยจับงูที่เป็นสัตว์คุ้มครอง ในทางปฏิบัติมันทำยากมาก เพราะนอกจากกู้ภัยต้องไปช่วยจับงูให้แล้ว ยังต้องวิ่งไปลงบันทึกประจำวันอีก มันทำยากเพราะเสียเวลาเสียค่าน้ำมันเขา เลยแทบจะไม่มีใครทำกัน แล้วในกรณีของน้องอั๋น ทีมงานก็พยายามทำแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ลงบันทึกให้ จนถูกจับ และมีแนวโน้มจะถูกดำเนินคดี ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ความรู้สึกของผมแย่มาก ที่ผู้เสียสละ ต้องมารับเคราะห์แบบนี้ครับ

 

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.บ้านหมอ จ.สระบุรี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรจากกรณีดังกล่าว และเข้าพบ ร.ต.อ.ชัชวาล บุญบาล ร้อยเวรวอบสวน สภ.บ้านหมอ เจ้าของคดี ได้ชี้แจ้งต่อผู้สื่อข่าวว่า ในวันนี้ เวลา 10.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจ ที่บริเวณริมถนนสายหน้าพระลาน – บางโขนด อ.บ้านหมอ หน้าบริษัทกระเบื้องกระดาษไทย หมุ่ที่ 11 ต.บางโขมด อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ในขณะที่ปฎิบัติหน้าที่ ได้มี นายจักริน นิลกำแหง อายุ 18 ปี หรือ อั้น ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง ขาว หมายเลขทะเบียน งรย 261 นครราชสีมา โดยมีเพื่อนนั่งซ้อนท้ายมาด้วย เมื่อมาถึงบริเวณจุดตรวจ สังเกตเห็น นายจักริน ผู้ขับขี่มีพิรุธ และพยายามจะกลับรถหลบหนี จึงได้เรียกให้หยุดเพื่อ ขอตรวจค้นกระเป๋าสีดำและกระสอบปุ๋ย จากการตรวจค้นพบ สัตว์เลื้อยคลานประเภทต่างๆ จำนวน 14 ชนิด ซึ่งนายจักรินได้ยอมรับว่าเป็นของตนเอง ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าสัตว์บางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 จึงได้ตรวจยึดสัตว์เลื้อยคลานทั้งหมดนำส่ง สำนักพื้นที่บริหารพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ 1 จ.สระบุรี จึงได้เชิญตัวนายจักรินกับเพื่อน มาทำการสอบสวน

ร.ต.อ.ชัชวาล บุญบาล ร้อยเวรวอบสวน สภ.บ้านหมอ เจ้าของคดี กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ดำเนินการจับกุมหรือดำเนินคดี และได้ปล่อยตัวนายจักรินออกไปแล้ว ซึ่งการนำตัวมาที่ สภ.บ้านหมอ เพียงเพื่อนำตัวมาสอบสวนถึงที่มาของสัตว์เลื้อยคลานทั้ง 14 ชนิด ส่วนในเรื่องที่นายจักริน ได้นำไปโพสในโลกโซเชียลนั้น เป็นเรื่องที่นายจักรินไม่เข้าใจ ในการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะต้องมีการตรวจสอบ ไปตามขั้นตอนต่างๆ ซึ่งการตรวจสอบแล้วมีมูลความจริง เจ้าหน้าที่จึงได้ปล่อยตัวนายจักรินและเพื่อนไป