จับแล้ว "ไอ้พันธ์" ฆาตรกร 4 ศพ หลบหนีในพื้นที่ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ฯ
17 ก.ค. 2566, 15:42
จากกรณีนายประพันธ์ นาคศิริ หรือพันธ์ อายุ 44 ปี ก่อเหตุยิงนายประยงค์ สมนึก อายุ 60 ปี และคนงานชาวเมียนมาอีก 3 ศพ รวมเสียชีวิต 4 ราย และสุนัข 1 ตัวในพื้นที่หมู่ 19 ตำบลนาสัก อ.สวี จ.ชุมพร เกิดเหตุระหว่างวันที่ 15-16 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุนายประพันธ์คนร้ายได้ขับรถกระบะสี่ประตูของนายประยงค์ หลบหนีไปทางจังหวัดสุราษฎร์ฯและเมื่อเวลา 17.38 น.วันเดียวกันได้ขับไปเกิดอุบัติเหตุลงข้างทางในพื้นที่หมู่ 7 ต.พลายวาส อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ฯ หลังจากนั้นได้รีบออกจากตัวรถและเดินไปตั้งหลักใกล้จุดเกิดเหตุพร้อมนำอาวุธปืนเดินถือติดตัวไปด้วย
ต่อมาได้มีรถยนต์เก๋งสีขาวมารับคนร้ายออกนอกพื้นที่จุดเกิดเหตุ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามนำโดย พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รองผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.ท.สุรพศ สุทธิเกิด รอง ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร ร.ต.ต.วิวัฒน์ ทองศิริ ร.ต.ต.ธวัชชัย บุษส่งแก้ว ด.ต.กฤษดา กุมพิมล ด.ต.จำนง อุปมา ด.ต.คำนึง อินรสุวรรณ์ จ.ส.ต.ประดิษฐ์ จันทร์เกตุ จ.ส.ต.ปฏิเวท เพ็งทะลุง และจ.ส.ต.ชาญวิทย์ ศิริสุข นำหมายศาลจังหวัดหลังสวนลงวันที่ 16 ก.คง66 เลขที่ 119/2566 ลงพื้นที่เกิดเหตุพร้อมทั้งได้แกะรอยกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดอุบัติเหตุ เพื่อเร่งติดตามเส้นทางหลบหนี
จนล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันนี้(17ก.ค.) ตำรวจชุดไล่ล่าได้ติดตามจนสามารถตะครุบตัวได้ขณะเดินสะพายกระเป๋าเป้บริเวณถนนภายในหมู่บ้าน ม.5 ต.สองแพรก อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ โดยนายประพันธ์คนร้ายฆาตรกรฆ่า 4 ศพ สวมเสื้อแขนยาวลายสก๊อต เสื้อดสีดำคาดไว้ที่เอว นุ่งขายาวสีฟ้า ใส่รองเท้าบูท และสวมหวกแก๊ปสีดำ มีอาการอิดโรย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจค้นภายในตัว กระเป๋าเป้และขนำในสวนยางพาราใกล้จุดพบตัว แต่ไม่พบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และยังพูดจาวกวนไม่รู้เรื่อง
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจาก ภ.จว.ชุมพรได้นำตัวนายประพันธ์ เดินทางไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สภ.ชัยบุรี ขณะเดียวกันได้แบ่งกำลังออกค้นหาอาวุธปืนที่คาดว่านายประพันธ์คนร้าย เก็บซุกซ่อนไว้ที่ใดที่หนึ่งแต่ยังไม่เปิดปากบอกที่ซุกซ่อนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมถึงความเคลื่อนไหวในการจับกุมตัวคนร้ายฆ่ายิง 4 ศพซึ่งเป็นคดีสะเทือนขวัญในพื้นที่จังหวัดชุมพรและเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ หลังมีการจับกุมตัวข่าวรายงานว่าภายหลังจากทำการบันทึกการจับกุมตัวได้และมีการนำตัวผู้ต้องหาส่งตัวกลับมา สภ.นาสัก พื้นที่ก่อเหตุและทำแผนประกอบรับคำสารภพนั้นเป็นอันต้องยกเลิกภารกิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากยังไม่พร้อมและจำเป็นต้องเลื่อนทำแผนเพราะผู้ต้องหายังอยู่ในอาการคล้ายมึนเมา อีกทั้งคาดว่าญาติของผู้เสียชีวิตยังมีความโกรธแค้นควบคุมอารมณ์ไม่ได้อาจจะมีการรุมประชาทัณฑ์เกิดขึ้นได้