วันที่ 22 กรกฎาคม 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเฉลา ทีเล่อร์ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 4 บ้านหนองบัว ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เดิมไปอยู่กินกับสามีชาวต่างชาติที่ประเทศออสเตรเลียนานกว่า 30 ปี จากนั้นได้กลับมาอยู่ที่บ้านเกิด แต่พบว่าการสอบแนวเขตที่ดินมีปัญหาจากการตัดทางและใช้ประโยชน์ในสาธารณะโดยองค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) เกาะหลัก ก่อสร้างถนนรุกเข้าในหลักหมุดที่ดิน 3 ไร่ ตั้งแต่การทำทางลอดใต้สะพานหนองบัว ถนนเพชรเกษมขาเข้า กทม. เชื่อมกับถนนคอนกรีตในหมู่บ้านอีก 200 เมตร ซึ่งเป็นที่ดินมีเอกสารสิทธิ์ ขณะที่เดิมญาติพี่น้องทำถนนลูกรังไว้ใช้ส่วนตัวเชื่อมกับถนนเพชรเกษม

“ เมื่อพบว่ามีการทำถนนคอนกรีตก็ได้บอกกับผู้ใช้เส้นทางว่าหากลอดทางกลับรถใต้สะพานแล้วขอให้ตรงไปบนถนนเพชรเกษมอย่าเลี้ยวซ้ายเข้าหมู่บ้านเนื่องจากผิวถนนคับแคบ และไม่ใช่เส้นทางหลักเส้นทางไม่ได้มาตรฐาน ขอให้ไปใช้เส้นทางข้างอนามัยหนองบัว สำหรับเส้นทางที่ อบต.ใช้งบสร้างในที่ดินโฉนด ไม่มีบุคคลภายนอกอาศัยนอกจากญาติพี่น้องสิบกว่าหลังคาเรือน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนทรัพย์สินเสียหายอย่างต่อเนื่องจากการเปิดใช้ทางสาธารณะ”

“ ที่ดินของเรา มีการเสียภาษีถูกต้อง แต่เมื่อบอกกล่าวแล้วหลายครั้งมีบางรายไม่พอใจ มีการนำขยะเข้ามาทิ้งในพื้นที่ นอกจากนั้นมีบางรายท้าทายให้ปิดถนน จึงดำเนินการปิดถนนพร้อมป้ายเตือน มีการล้อมรั้วลวดหนามตั้งแต่ใต้สะพาน ทำให้มีคนโวยว่าได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่ทราบว่าถนนเส้นนี้สร้างมานานหลายปีในที่ดินโฉนด แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงมาขอเจรจาเพื่อผ่อนผันให้รถมอเตอร์ไซค์ใช้เส้นทางเป็นการชั่วคราว ” นางเฉลา กล่าว