ความคืบหน้ากรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้รถยนต์เก๋ง โตโยต้าวีออส สีขาว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ประกบยิง นายเชิดศักดิ์ พรายพรรณ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161/1 หมู่ 10 ต.ในควน อ.ย่านตาขาว ผ่านกระจกด้านข้างคนขับ ซึ่งเป็นรถยนต์กระบะอีซูซุ สี่ประตู สีดำ ป้ายทะเบียน กน.477 ตรัง   ขณะรถชะลอรอเลี้ยว โดย 1 ในคนร้าย สวมชุดขาว (ชุดกินเจ) สวมหน้ากากอนามัยพรางใบหน้า  ได้เปิดประตูลงจากรถเก๋ง เพื่อหวังจะมาจ่อยิงซ้ำ  แต่นายเชิดศักดิ์ ซึ่งเป็นคนขับ โดยมีนายศิรภพ พรายพรรณ อายุ 47 ปี น้องชายนั่งคู่มาด้วย  ซึ่งมีสติได้พยายามก้มศีรษะหลบกระสุนปืน และขับรถถอยจากจุดเกิดเหตุ เป็นเหตุให้ถอยรถชนรถยนต์คันอื่นที่ตามหลังมา  และรถปีนขึ้นริมฟุตบาท ชนสิ่งของกีดขวางหลังรถกระจัดกระจาย ทั้งประตูบ้านเรือน รวมทั้งโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้านของชาวบ้าน ทำให้ได้กระสุนปืนถูกบริเวณสีข้างด้านขวา 2 นัด  เฉี่ยวหางคิ้วขวาไป 1 นัด รอดตายหวุดหวิด เมื่อช่วงหัวค่ำของคืนวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา บนถนนสังขวิทย์ เขตเทศบาลนครตรัง   โดยผู้เสียหายขณะนี้ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตรัง อาการปลอดภัย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลคุ้มครองอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันเหตุคนร้ายจะหวนกลับมาก่อเหตุซ้ำ
 

ความคืบหน้าล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้ภาพสเก็ตคนร้ายมือปืนคนที่ลงจากรถยนต์เก๋งมาจ่อยิงเหยื่อซ้ำแล้ว  เนื่องจากขณะก่อเหตุมีคนเห็นเหตุการณ์หลายคน เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณสามแยก มีรถจอดรอเลี้ยวหลายคัน ซึ่งภาพสเก็ตดังกล่าว คนร้ายสวมหน้ากากอนามัย รูปร่างท้วม ไม่สูงมากนัก ซึ่งตรงกับที่ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์หลายคนให้การตรงกัน  ซึ่งทางตำรวจจะใช้เป็นเบาะแสในการแกะรอยติดตามกลุ่มคนร้าย เน้นที่คู่อริเก่าหรือคดีเก่าที่ผู้เสียหายเคยพัวพัน เพราะเชื่อว่าคงเป็นการคิดบัญชีเก่า เพื่อล้างแค้น  ขณะเดียวกันทางตำรวจจัดชุดลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว และแกะรอยกล้องวงจรปิด เชื่อจะสามารถออกหมายจับคนร้ายได้เร็วๆนี้  ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครตรังอยู่ไกล ทำให้มองไม่เห็นเหตุการณ์ สำหรับนายเชิดศักดิ์ เคยถูกศาลตัดจังหวัดตรังตัดสินจับคุกตลอดชีวิต ในข้อหา ฆ่าผู้อื่น เหตุเกิดในท้องที่ สภ.กันตัง โดยศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่ถูกจำคุกจริง 11 ปี และเพิ่งพ้นโทษมาได้เพียงประมาณ 3 เดือน ออกมาช่วยภรรยาขายผักอยู่ในตลาดเทศบาลนครตรัง