ที่สุพรรณบุรี นายวันชัย นิลวงศ์ เกษตรจังหวัดสุพรรณบุรี ได้นำเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตร จังหวัดเกษตรอำเภอบางปลาม้า ลงพื้นที่สวนมะพร้าว ตำบลจระเข้ใหญ่ อำเภอบางปลาม้า เยี่ยมชมสอบถามปัญหาการทำสวนมะพร้าวที่สวน มะพร้าวน้ำหอมเจ๊หนุ่ย  พบนางสาวพิศมัย มะขามป้อม (เจ๊หนุ่ย) อายุ 54 ปีและนายประสิทธิ์ ปึ้งสุนทร (เฮียเปี๊ยก) อายุ 56 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของสวนได้พาเจ้าหน้าที่เกษตรและผู้สื่อข่าวเดินชมสวนมะพร้าวและดูผลผลิต ในบริเวณอาณาจักรสวนมะพร้าวพื้นที่ 300 ไร่

นางสาวพิศมัย มะขามป้อม (เจ๊หนุ่ย) เปิดเผยว่าเมื่อก่อนทำสวนองุ่น พอแต่งงานแล้วก็เริ่มทำสวนมะพร้าวที่บ้านแพ้ว โดยเริ่มแรกไปเซ้งสวนมะพร้าวมาทำกระทั่งกิจการเริ่มใหญ่ขึ้น มีลูกค้ามาติดต่อมากขึ้นจึงหาสวนเพิ่มทำให้มีลูกสวนที่บ้านแพ้ว ดำเนินสะดวก กระโจม ราชบุรี และกิจการก็โตขึ้นมีตู้นอกมาติดต่อเยอะ แต่ปฏิเสธเพราะตู้วิธีการเยอะหลายเรื่อง ต้องควั่นต้องมีน้ำยาจึงตัดสินใจส่งเปลือกเขียวหาวัตถุดิบส่งป้อนโรงงานและมีออกตลาดทั่วไป มีตลาดแม่สอด สี่มุมเมือง ตลาดไท กำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ บางกะปี สุขุมวิท ส่งหลายที่มาก เมื่อผลผลิตไม่พอก็หาที่เช่าเพิ่ม หาเซ้งในบ้านแพ้วไม่มีที่ถูกใจมีแต่แปลงเล็กขนาด 10-20 ไร่ คิดแล้วไม่คุ้ม สามีจึงชวนมาดูที่สุพรรณบุรี มาเจอแปลงใหญ่ 300 กว่าไร่ ลองดูดิน เทสดินแล้วโอเคทำได้ ค่าเช่าที่บ้านแพ้วกับที่สุพรรณบุรีต่างกันเยอะ ที่สุพรรณบุรีค่าเช่าถูกกว่าระยะการทำสามารถทำได้ยาวๆ จึงตัดสินใจมาบุกเบิกที่สุพรรณบุรี มาดูน้ำดูที่เพราะมีน้ำท่วมแต่สามีบอกไม่ต้องตกใจ มีหนทางจากประสบการณ์ทำสวนมาก่อน

โดย เริ่มปลูกมะพร้าวก่อนเมื่อปี 2560 แล้วปลูกมันเทศแซมเป็นเพื่อนกัน มะพร้าวจะได้ไม่โทรม มันเทศได้ผลผลิตดีเพราะดินดีมาก พอได้ระยะหนึ่ง มะพร้าวก็เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆและโตเร็วมาก 1 ปี 7 เดือน มะพร้าวแทงจั่นแล้ว  2 ปี 8 เดือน เริ่มตัดได้ 1,000 กว่าลูก ไปจนปีที่ 4-5 มะพร้าวตัดได้ทีละ 50,000 – 60,000  ลูกตัดเยอะสุด 105,100 ลูก ปัจจุบันตัดได้ 100,000 กว่าลูก โดยมะพร้าวมี 9 แปลง แบ่งตัดเป็นโซนๆ ตัดวันเดียวไม่เสร็จ ใช้เวลาในการตัด 2 สัปดาห์ วนได้พอดีชนเดือน แต่หน้าแล้งก็เว้นห่างออกไป มะพร้าวติดลูกน้อยอากาศร้อนมีร่วงทั่วไป ที่บ้านแพ้วก็เป็น ครั้งแรกที่คิดทำสวนมะพร้าวที่สุพรรณบุรีเพราะที่บ้านแพ้วไม่มีที่ดินแปลงใหญ่ๆ อยากจะสานต่อที่บ้านแพ้วแต่ซื้อแข่งกันในสวนซื้อไม่ไหว คนกลางที่ไปซื้อตัดราคากันเอง คนกลางก็อยู่ไม่ได้ ต้องมีสวนเองเท่านั้นถึงจะอยู่ได้ ถ้าไม่มีสวนเองไปรับซื้อเขาเราก็ไม่ได้กำไร จึงปลูกเอง ขายเอง แบบนี้ได้แน่นอน การกำหนดราคาดูจากท้องตลาดสามารถกำหนดราคาเองได้ แต่ถ้าตู้ ตู้จะกำหนดราคาให้เรา โดยจะบอกราคามาเลยว่าสัปดาห์นี้ราคาเท่านี้จะมีขึ้นมีลงแทบทุกสัปดาห์

สายพันธุ์มะพร้าวที่ปลูกเป็นพันธุ์ก้นจีบบ้านแพ้ว เป็นมะพร้าวน้ำหอม ถ้าพูดถึงคุณภาพมะพร้าวบ้านแพ้วจากการที่ทานมะพร้าวมานานมากๆทุกวัน วันละ 1 ลูก พอมะพร้าวสุพรรณออกลูกก็ลองมาทานมะพร้าวสุพรรณจากนั้นไม่กลับไปทานมะพร้าวบ้านแพ้วอีกเลย เรื่องจริงพิสูจน์โดยเจ้าของสวนใครไม่เชื่อสามารถไปพิสูจน์ได้เลย เพราะมะพร้าวสุพรรณ น้ำจะหอม เนื้อนุ่มไม่กระด้าง อร่อยมาก บอกเลยว่าน้ำมะพร้าวที่นี่อร่อยมาก ตอนแรกคิดว่าสวนมะพร้าวของตัวเองที่บ้านแพร้วอร่อยสุดแล้ว แต่มาสุพรรณ สวนเจ๊หนุ่ยสวนนี้ น้ำหวานมาก อร่อย ใครไม่เชื่อมเชิญมาชิมที่สวนมะพร้าวเจ๊หนุ่ย

การปลูกมะพร้าวที่สุพรรณบุรีก็มีปัญหาในเรื่องแมลง หนอน ไร ซึ่งดุกว่าบ้านแพ้ว เพราะบ้านแพ้วมีสวนเยอะทำให้พวกแมลงกระจายกันไปสวนอื่น แต่ที่สุพรรณบุรีมีสวนเดียวเวลาช่วงทำนายังไม่เท่าไร แต่หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้วต้องรีบฉีดยาดักไว้ก่อนโดยได้มีเกษตรจังหวัดสุพรรณบุรีเกษตรอำเภอเกษตรตำบล เข้ามาให้คำแนะนำการใช้สารกำจัดแมลงเพื่อความปลอดภัยไม่ตกค้างไปถึงผู้บริโภค หากไม่ดักไว้หนอนจะเจาะเข้าไปไข่ในลูกมะพร้าว ส่วนการปลูกจะปลูกทีละแปลง เริ่มแปลงแรก60ไร่ และทยอยปลูกไป จนเต็ม 300ไร่ จำนวน 13,100 ต้น เก็บผลผลิตได้สูงสุดร่วม 200,000ลูก ราคา 13 บาทต่อลูก ก็จะได้ประมาณ 2,600,000บาท  ถ้าส่งกรุงเทพ 15วันตัด ส่งที่อื่นก็ 20 วันตัด ถ้าอากาศร้อนจะทำให้มะพร้าวตัดได้เร็วขึ้น อากาศร้อนก็มีผลทำให้ลูกอ่อนร่วง แก้ปัญหาโดยการโชยน้ำก็ดีขึ้น กระทบไม่เยอะ ช่วงบ้านแพ้วมะพร้าวขาดจังหวะที่สุพรรณมีมะพร้าวให้ตัดเยอะ ตรงช่วงกอบโกยได้เยอะเลย ตัดสินใจไม่ผิดที่มาบุกเบิกที่สุพรรณ

คุณประโยชน์ของมะพร้าวจากประสบการณ์ตนเคยเป็นมะเร็งที่ลำไส้ได้ศึกษาข้อมูลพบว่าให้ดื่มน้ำมะพร้าว ตอนแรกก็ไม่ค่อยเชื่อและกลัว จึงไปอ่านหนังสือบอกว่าช่วยได้ช่วยปรับสมดุลปรับฮอร์โมน นอกจากเป็นมะเร็งลำไส้แล้วเจ๊หนุ่ย ยังเป็นวัยทอง จึงดื่มน้ำมะพร้าวทุกวัน วันละ 1 ลูก โดยไม่ทานเนื้อ ดื่มน้ำมะพร้าวทุกวันไม่เคยขาด ตอนนี้ดื่มแต่น้ำมะพร้าวที่สวนสุพรรณ จนผิวที่กร้านและแห้งจากการให้คีโมก็หาย หน้าตาสดใส ผ่องขึ้นแบบผิดหูผิดตาเลย แนะนำสำหรับคนที่เป็นวัยทองหรือเป็นมะเร็งช่วงที่ให้คีโมแล้ว ดื่มน้ำมะพร้าวได้เลยมีผลดีต่อร่างกายมาก เพราะน้ำมะพร้าวเป็นน้ำที่สะอาดบริสุทธิ์ไม่มียา สังเกตจากตัวเองหลังจากดื่มน้ำมะพร้าว ร่างกายเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน แต่ต้องออกกำลังกายช่วยเสริมรู้สึกแข็งแรงกว่าเมื่อก่อนเยอะ คนแก่ทานแล้วไม่เป็นอัลไซเมอร์ ช่วยได้หลายอย่าง ไม่ลองกับตัวก็ไม่รู้ต้องทดลองดื่มดู มะพร้าวสวนที่สุพรรณบุรี

นายประสิทธิ์ ปึ้งสุนทร (เฮียเปี๊ยก) อายุ 56 ปี เจ้าของสวนมะพร้าว เล่าวว่าตนและครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรอยู่ที่อำเภอบ้านแพ้ว มาตั้งแต่รุ่น เตี่ยรุ่นแม่ ตนเรียนหนังสือจบชั้น ป.6 รุ่นแรก หลังจากจบ ป.6 ยุคนั้นการคมนาคม ไม่สะดวกประกอบกับตนเป็นลูกชายคนเดียวในบ้าน เตี่ยก็เลยบอกอยู่ช่วยทำสวน ตนจึงอยู่บ้านช่วยทำสวนปลูกพริกปลูกถั่ว ก่อนจะมาปลูกมะพร้าวทำน้ำตาล อยู่หลายปีจนมีความรู้เรื่องมะพร้าว ต่อมาก็มีการเปลี่ยนแปลง เริ่มมีการปลูกมะพร้าวน้ำหอม คนก็เริ่มนิยมเริ่มรับรู้ว่ามะพร้าวน้ำหอมนั้นไปได้ไกลตนก็ไปเรียนรู้เอามะพร้าวสายพันธุ์ก้นจีบ อ่างทองที่แรกที่เป็นแหล่งผลิตเอามาปลูกโซนอำเภอบ้านแพ้ว แรกๆตลาดยังไม่โตก็ลุ่มๆดอนๆ ช่วงราคาถูกตลาดก็ไม่มีรองรับ ถูกสุดลูกละ 6 สลึง หลังจากนั้นเริ่มมีการส่งออกมีพ่อค้าส่งออกมีการแปรรูปด้วยการควั่น เขียว ตลาดนอกเริ่มยอมรับว่ามะพร้าวบ้านแพ้วเป็นมะพร้าวที่ดีที่สุดในโลก มะพร้าวมีรสชาติดีชวนรับประทาน มีคุณค่ามีประโยชน์ในน้ำมะพร้าวสูง

จึงเปลี่ยนจากมะพร้าวน้ำตาลมาเป็นมะพร้าวน้ำหอมดีกว่าตลาดก็โตขึ้นกว้างขึ้นลูกค้าก็เยอะขึ้น ทำให้ที่ดินบ้านแพ้วแพงขึ้นเพราะเป็นเขตปริมณฑลก็เลยคิดว่าจะไปหาพื้นที่ที่ไหนที่ติดน้ำและมีน้ำใช้ทั้งปีเพราะมะพร้าวเป็นพืชที่ขาดน้ำไม่ได้ก็เลยออกตระเวนหากระทั่งมาที่สุพรรณบุรี มาสำรวจดินองค์ประกอบต่างๆ พบเป็นดินดำร่วน คิดว่าใกล้เคียงกับบ้านแพ้วน่าจะดีที่สุดจึงชวนเพื่อนมาดูและเอาดินไปตรวจคุณค่าทางอาหารซึ่งใกล้เคียงกัน จึงตัดสินใจเช่าที่ 300 ไร่ปลูกและได้ผลผลิตดีมีคุณภาพรสชาติหอมอร่อย ทุกวันนี้ มีลูกค้าแย่งกันจองมะพร้าวที่สวนสุพรรณบุรี ส่วนที่บ้านแพ้ว ของดก่อน ตนก็บอกกับลูกค้าว่าต้องแบ่งกันเพราะลูกค้าเยอะมาก เฮียเปี๊ยกบอกกับผู้สื่อข่าวแบบติดตลก

ทางด้านนายวัย  นิลวงศ์ เกษตรจังหวัด เปิดเผยว่าสวนมะพร้าวของเจ๊หนุ่ย ใหญ่ที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรี ปลูกมะพร้าวมาแล้ว 8-9ปี ให้ผลผลิตมา 4-5ปี เจ้าของคือ เจ๊หนุ่ย และ พี่เปี๊ยก เป็นเกษตรกรมาจากอำเภอบ้านแพ้ว ได้นำมะพร้าวสายพันธุ์ จีไอ ที่บ้านแพร้วมาต่อยอดที่สุพรรณบุรี เป็นมะพร้าวน้ำหอมก้นจีบ เป็นมะพร้าว 3 น้ำ คือ น้ำเค็ม น้ำจืด น้ำกร่อย มาพัฒนาศึกษาเรียนรู้ และมาปลูกที่อำเภอบางปลาม้า ประมาณ 300กว่าไร่ สิ่งสำคัญคือสิ่งที่เหมือนกันและคล้ายกันกับที่สมุทรสาคร คือมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบ หรือ จีไอ ที่ พี่เปี๊ยก และเจ๊นุ้ย  มาทำที่บางปลาม้า ประเด็นแรกคือ น้ำดี เป็นพื้นที่ลุ่ม เดิมทำนา ปลูกแตงโม และมาประยุกต์ใช้พัฒนาเป็นทุ่งรับน้ำ ที่สำคัญแปลงนี้ทำเกษตรดีที่เหมาะสม คือแปลงนี้เป็นแปลงที่เกษตรกรขอได้รับ จีเอพี เรียบร้อยแล้วทั้งแปลง ตอนนี้กำลังพัฒนาไปสู่เกษตรอินทรีย์อยู่ในช่วงการปรับเปลี่ยน การส่งเสริมประเด็นแรกคือเรื่องการใช้สารชีวภาพ ชีวภัณฑ์ มาช่วยเพื่อตอบโจทย์สินค้าปลอดภัย ส่งต่อไปที่เกษตรอินทรีย์ สุดท้ายให้เจ้าหน้าที่เกษตรที่อำเภอบางปลาม้าเข้ามาสนับสนุนช่วยเหลือ