วอนรักษาการผู้ว่าฯ ประจวบ ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมเมือง
23 ก.ค. 2566, 12:08
วันที่ 23 กรกฏาคม 66 จ่าอากาศเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายสมพร ปานแดง สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล( อบต.) หมู่ 10 ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันลงพื้นที่สำรวจโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมหลังจากกรมโยธาธิการฯใช้งบ 144.7 ล้านบาท ทำโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯตั้งแต่ปี 2560 แต่สำนักงานโยธาธิการจังหวัดมีแผนจะโอนภารกิจโครงการนี้ให้ อบต.เกาะหลักเพียงแห่งเดียว
โดยเริ่มตรวจสอบเส้นทางน้ำจากลำห้วยร่องทศกัณฑ์จาก ต.เกาะหลัก ฝั่งตะวันตกที่สะพานข้ามถนนเพชรเกษม หน้าห้างโกลบอลเฮ้าท์ พบว่าลำห้วยทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกของถนนเพชรเกษม มีการออกโฉนดที่ดินทับลำห้วยทั้งหมด จากนั้นตรวจสอบไปตรวจสอบท่อระบายน้ำริมถนนเพชรเกษมขาล่อง ด้านทิศใต้ห่างจากสถานีตำรวจทางหลวง 200 เมตร พบว่ามีร่องน้ำขนาดเล็ก และสำรวจการทำโครงการอขงกรมโยธาที่ถนนซอยสายเพชรเกษม–ดอนเหียง ด้านข้างสถานีตำรวจทางหลวง โดยทำบล็อกคอนเวิร์ทขนาดใหญ่ฝั่งใต้ถนน แต่รับน้ำจากด้านหน้าที่ดินโฉนดของเอกชน
นายสมพร ปานแดง ส.อบต. หมู่ 10 ต.เกาะหลัก กล่าวว่า ยืนยันว่าการใช้งบประมาณในพื้นที่ อบต.เกาะหลักไม่มีความคุ้มค่า ขณะที่ตนได้เสนอให้ทำโครงการเพิ่ม โดยทำท่อรับน้ำจากริมถนนเพชรเกษมแต่ไม่ได้ดำเนินการ หากฝ่ายบริหารเสนอญัตติให้สภา อบต.พิจารณาให้ความเห็นชอบ ในฐานะ 1 ใน 11 ส.อบต.จะคัดค้านโครงการนี้ เนื่องจากตรวจสอบแล้วการใช้งบไม่ได้แก้ปัญหาน้ำท่วม จากการนำน้ำจากลำห้วยร่องทศกัณฑ์ลงทะเลได้จริง และกรมโยธาทำ
“ โครงการนี้ในเขตเทศบาลใช้งบกว่า 100 ล้านบาท แต่ทำการก่อสร้างในเขต อบต.เพียง 44 ล้านบาท เท่านั้นและการวางท่อใต้ถนนยังมีปัญหาในบางจุดเนื่องจากผ่านที่ดินป่าช้า ผ่านที่ดินเอกชน หากถ่ายโอนให้ อบต. แห่งเดียวเมื่อโครงการชำรุดในเขตเทศบาล อบต.จะใช้งบแก้ปัญหาได้อย่างไร ขณะที่จุดรับน้ำที่กรมโยธาฯ ก่อสร้าง ห่างจากร่องทศกัณฑ์ทางทิศเหนือมากกว่า 1 กิโลเมตร มีปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ มีโฉนดที่ดินนายทุนกั้นขวางทั้งหมด ขณะที่ลำรางธรรมชาติในอดีตร่องน้ำจะไหลไปทางทิศใต้”
จ่าอากาศเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าว่า เดิมโครงการนี้การออกแบบเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ โดยอ้างว่ารับน้ำจากลำห้วยร่องทศกัณฑ์ แต่ก่อสร้างผิดจุด เนื่องจากข้อเท็จจริงเป็นการระบายน้ำจากร่องประดู่ ด้านหลังโรงเรียนกิตติคุณ นำน้ำจากเทือกเขาตะนาวศรีฝั่งตะวันตกผ่านทางรถไฟไปออกทะเล แต่ทราบว่าที่ผ่านมาโครงการมีปัญหาเนื่องจากการรถไฟไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ ทำให้โครงการหยุดชะงัก
“ ก่อนมอบโครงการนี้ให้ อบต.รองผู้ว่าฯที่รักษาราชการแทนผู้ราชการจังหวัด โยธาจังหวัด ควรตอบกับประชาชนให้ชัดเจนว่าการใช้งบแก้ปัญหาน้ำท่วมได้จริงหรือไม่ หลังจากมีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาสำรวจออกแบบและมีการอนุมัติงบทำโครงการ ระหว่างที่ผู้รับเหมาทำการก่อสร้างทำไมจึงถูกการรถไฟฯทักท้วงไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่
จากนั้นโยธาฯได้โยกงบที่เหลือไปวางท่อใต้ถนนอ้างรับน้ำจากลำห้วยร่องทศกัณฑ์ผันไปทางทิศเหนือหลังสถานีตำรวจทางหลวง แต่ข้อเท็จจริงจุดที่รับน้ำห่างจากลำห้วยมากกว่า 1 กิโลเมตร ด้านหน้าโครงการที่วางท่อเป็นที่ดินโฉนดแปลงใหญ่ นอกจากนั้นในลำห้วยยังมีการนำพื้นที่ไปออกเอกสารสิทธิ์” จ่าอากาศเอกเสกสรรค์ กล่าว//////