ผู้ปกครองและนักเรียนขับไล่ ผอ.นำเงินผ้าป่าสร้างโรงจอดรถไม่โปร่งใส
27 ก.ค. 2566, 19:06
เมื่อเวลา 09.00 น วันที่ 27 ก.ค.ได้มีได้มีผู้ปกครองและนักเรียน กว่า 250 คน ถือป้ายประท้วงขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียน มัธยมประจำโรงเรียน ในตำบลแห่งหนึ่ง ในอำเภอปากคาด ถูกกล่าวหาว่านำเงินผ้าป่าที่ชาวบ้านร่วมกันบริจาคไปสร้างโรงจอดรถให้กับครูนักเรียน เป็นจำนวนเงิน กว่า 600,000 บาทโดยไม่โปร่งใสและไม่สมราคา เมื่อชาวบ้านสอบถาม ก็เขียนกระดาษชี้แจงมาแค่นิดเดียว ซึ่งไม่สมกับเป็นผู้อำนวยการ และเป็นระดับด็อกเตอร์ และยังใช้วาจาข่มขู่จะฟ้องกลับ ผู้ที่มาสอบถามเรื่องราคาการก่อสร้างโรงรถ ทำให้ผู้ปกครองไม่พอใจเป็นอย่างมาก และอีกอย่างกิจกรรมของนักเรียน ทาง ผอ.ก็ไม่ได้ส่งเสริมสนับเช่น การเดินทางไปแข่งขันทางวิชาการ ก็ไม่ได้สนับสนุนทั้งรถ และค่าน้ำมันรถ จึงสร้างความไม่พอใจให้กับนักเรียน และครูที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา จึงได้เขียนขอย้ายหนีไปที่อื่นกว่า 5 คนแล้ว
ต่อมานายทวี ชิณรงค์ นายอำเภอปากคาด ได้มอบหมายให้ จ.ส.อ.อุเทน เสียงเพราะ ปลัดอำเภอและนางสาวปภัสนันท์ ธนาธรนิธิโรจน์ ปลัดอำเภอ ชำนาญการพิเศษ ร่วมกับ พ.ต.อ.ศิวัช วรคุตตานนท์ ผกก.สภ.ปากคาด นำกำลังเข้าไปป้องกันระงับเหตุ เนื่องจากว่าทั้งผู้ปกครองและนักเรียนพยายามจะบุกเข้าไปในห้อง ของผอ ซึ่งไม่กล้าออกมาเผชิญหน้าชี้แจ้งกับผู้ปกครองนักเรียน
ทางด้าน ดร.กษมา ป้องกัน ผู้อำนวยการเขตการศึกษา พื้นที่มัธยมศึกษาบึงกาฬ ได้มอบหมายให้ นายนรภัทรสิทธิจักร รองผู้อำนวยการ ร่วมกับ นายอดุลย์ พรมวัง ผู้อำนวยการโรงเรียนปากคาดพิทยาคมและนายชวนะ ทวีอุทิศผู้อำนวยการโรงเรียนโซ่พิสัยพิทยาคม ไปเจรจาไกล่เกลี่ยรับฟังความคิดเหตุ ร่วมกับนายศักดิ์ชัย มารมย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสมสนุกนายก พระสงฆ์ในตำบล และคณะกรรมการสถานศึกษา ซึ่งการเจรจาไม่ได้ยุติโดยง่าย จนเกิดเหตุมีการพังประตูในห้องธุรการเข้าไปเพื่อจะบุกทะลุทะลวงเข้าไปเอาคำชี้แจงและคำตอบจากปากผู้อำนวยการ ซึ่งอยู่ในห้องข้างในอีกชั้นหนึ่ง แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันไว้ การเจรจาระหว่างคณะกรรมการ ผู้บริหาร และกรรมการสถานศึกษาจนถึงเวลา 15.00 น ทางคณะกรรมการไกล่เกลี่ย ได้ชี้แจงว่ามีมติให้ผู้อำนวยการโรงเรียน ย้ายออกไปที่อื่นก่อน โดยจะทำเรื่องนำเสนอคณะกรรมการจังหวัดได้เห็นชอบและอนุมัติเสียก่อนตามขั้นตอนและตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามระเบียบ ซึ่งช่วงนี้อยู่ระหว่างการทำเรื่องขอย้ายโรงเรียน แต่ว่าทางผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้ไม่ได้ทำเรื่องย้ายเอาไว้ ทำให้ผู้ปกครองนักเรียนเกิดความพอใจในระดับหนึ่ง จึงได้แยกย้ายกันกลับบ้าน
ทางด้านนางสาวนวรัตน์ ขันสะพัฒ อายุ 38 ปีผู้ปกครองนักเรียน กล่าวว่า การสร้างโรงจอดรถ ซึ่งเป็นเงินผ้าป่าที่ผู้ปกครองและศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันด้วยช่วยกันนำเงินบริจาคให้กับทางโรงเรียน โดยผอ นำมาสร้างโรงจอดรถแต่ก็ดูแล้วไม่สมราคากับ 600,000 บาทแต่ในเมื่อ มาสอบถามก็ไม่พอใจ ขู่แต่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นล้าน ซึ่งก็ไม่มีใครพอใจ และอีกอย่างการสนับสนุนกิจกรรมนักเรียนไปแข่งขัน ทางวิชาการก็ไม่ได้ส่งเสริมสนับสนุนเงินค่าน้ำมันให้ครูพานักเรียนไปด้วย จึงเป็นเหตุให้สร้างความไม่พอใจขึ้นเกิดการประท้วงในครั้งนี้
ส่วนเด็กนักเรียนชาย นามสมมุติว่าเอ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า บางวันหากนักเรียนติดฝนมาสายเพียง 1 นาที ผอ.ก็จะให้ครูไปปิดประตูรั้วโรงเรียนไม่ให้นักเรียนเข้ามาและไล่กลับบ้านไป ซึ่งทั้งๆ ที่นักเรียนก็ใส่ชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนอยู่ ก็รู้ว่าเป็นนักเรียนของตนเองและก็จำได้ก็ยังไม่ให้เข้าโรงเรียน ซึ่งเด็กนักเรียนทุกคน ที่มาก็อยากจะเข้ามาเรียน เพื่อให้ได้ความรู้ นำไปสู่อนาคตตนเอง แต่ก็ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนปฏิเสธ ทำให้นักเรียนหลายคนต้องย้ายไปเรียนที่อื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมมาฃว่า หลังจากที่คณะกรรมการได้มีมติตกลงให้ ผู้อำนวยการโรงเรียนย้ายออกจากโรงเรียนไปที่อื่น ทำให้ผู้ปกครอง และนักเรียนต่างส่งเสียงไชโยโห่ร้องด้วยความดีใจ บางคนถึงกับร้องไห้น้ำตาไหลด้วยความตื้นตันใจดีใจระคนกัน.