สท.เทศบาลคนสนิทนายกเล็ก เครียดจบชีวิตสลด ตำรวจเร่งหาสาเหตุ
4 ส.ค. 2566, 16:39
เมื่อช่วงสาย วันที่ 4 สิงหาคม2566 พ.ต.ต.(หญิง) บุญญกานต์ เล่ทองคำ สว (สอบสวน) สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งว่ามีเหตุพบศพคนยิงตัวตาย ที่บริเวณแปลงเพาะพันธุ์ยางพารา องค์การสวนยางนาบอน หมู่ 8 ต.หลักช้าง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น แล้วพร้อมด้วย พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช,พ.ต.อ.ธวัชชัย สังฆมิตกล ผกก.สภ.ช้างกลาง,พ.ต.ท.กงกฤช ทองนุ่น รอง ผกก.ป.สภ.ช้างกลาง,พ.ต.ท.เทวกฤต ดิษฐรักษ์ รอง ผกก.(สอบสอบสวน) กำลังตำรวจชุดสืบสวน,ตำรวจพิสูจน์หลักฐานนครศรีธรรมราช,แพทย์เวรโรงพยาบาลพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยบรรเทาช้างกลาง รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุบนพื้นดินพบศพผู้ตาย สภาพนอนหงายในชุดสวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงสามส่วนสีดำ สอบสวนทราบชื่อนายกมลศักดิ์ หรือ เท่ง คงสุข อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/1 หมู่ 5 ต.หลักช้าง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช นอนตายข้างกอป่าไผ่ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้ากกหูขวาทะลุซ้าย 1 นัด นอกจากนี้ที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ยี่ห้อ GLOCK ตกอยู่ข้างศพจำนวน 1 กระบอก และพบปลอกกระสุน 9 มม.ตกอยู่ 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนห่างศพ 50 เมตร พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน กบ - 6030 นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นของผู้ตายจอดอยู่ จึงติดต่อ จนท.พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหาหลักฐานต่างๆในรถอย่างละเอียด
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายกมลศักดิ์ ผู้ตาย ปัจจุบันเป็นนักการเมืองท้องถิ่น โดยเป็น สท.หรือ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหลักช้าง อ.ช้างกลาง เป็นคนโสด เป็นคนสนิทของนายกเทศมนตรีตำบลช้างกลาง ก่อนเกิดเหตุมีพยานเห็น ผู้ตาย ขับรถกระบะคันดังกล่าว ออกจากบ้านพักมาจอดที่เกิดเหตุ แล้วเดินลงจากรถ ก่อนจะใช้อาวุธปืนกระบอกยิงหัวฆ่าตาย ส่วนสาเหตุการยิงตัวนายนั้น ทางพล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบพยานที่เห็นเหตุการณ์เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย สาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากความเครียดปัญหาเรื่องส่วนตัวบางเรื่อง อย่างไรก็ตามจนได้สั่งการให้ตำรวจทำคดีนี้อย่างละเอียด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นการฆ่าตัวตายเองหรือมาจากสาเหตุอื่นหรือไม่ โดยได้ส่งศพผู้ตาย ไปผ่าชันสูตรอย่างละเอียดที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และจะสอบสวนหาสาเหตุการที่แท้จริงต่อไป