วันนี้ ( 7 ส.ค.66 ) นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางานมีนโยบายส่งเสริมให้แรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยวิธีการเดินทาง 5 วิธี ได้แก่ กรมการจัดหางานจัดส่ง ,บริษัทจัดหางานจัดส่ง, คนหางานเดินทางไปทำงานด้วยตนเอง ,บริษัทส่งไปทำงานต่างประเทศ และบริษัทส่งไปฝึกงานต่างประเทศ ทั้ง 5 วิธีการต้องแจ้งแบบเดินทางไปทำงานต่างประเทศกับกรมการจัดหางาน ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือที่ด่านตรวจคนหางานที่สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง และในต่างจังหวัด 19 จังหวัด รวม 25 ด่าน

หากไม่แจ้งการเดินทางต่อกรมการจัดหางาน ถือว่าเป็นการลักลอบไปทำงานผิดกฎหมาย สำหรับภาพรวมการจัดส่งแรงงานไทย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน มีแรงงานไปทำงานต่างประเทศแล้วกว่า 88,600 คน ซึ่งก่อนเดินทาง กรมการจัดหางานได้จัดอบรมเตรียมความพร้อมให้แรงงาน ทั้งเรื่องกฎหมาย ภาษา ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม เงื่อนไขสัญญาจ้างงาน สภาพการจ้าง และข้อห้ามต่างๆ พร้อมให้แรงงานสมัครสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เพื่อคุ้มครองกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น กรณีประสบปัญหาจากภัยสงคราม ภัยธรรมชาติ กรณีประสบปัญหาในต่างประเทศ ถูกเลิกจ้าง/พักงาน นายจ้างไม่จ่ายเงินเดือน กรณีประสบอันตรายจนพิการ และเสียชีวิต กองทุนจะให้ความคุ้มครอง และสิทธิประโยชน์ที่กฎหมายกำหนด แต่หากไปทำงานผิดกฎหมายก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากกองทุนฯ ดังกล่าว

อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวถึงคุณสมบัติเบื้องต้นของคนที่จะไปทำงานต่างประเทศ ว่า ต้องมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ขยัน อดทน มีความรู้ด้านภาษา และมีทักษะการทำงาน ส่วนการเตรียมตัว ควรศึกษารายละเอียดวิธีไปทำงานต่างประเทศจากเว็บไซต์กรมการจัดหางาน โดยเฉพาะการตรวจสอบข้อมูลของบริษัทจัดหางานที่จะจัดส่ง ว่าได้รับอนุญาตจัดหางานจากกรมการจัดหางานหรือไม่ มีลักษณะงานอย่างไร และมีตำแหน่งงานจริงตรงตามประกาศรับสมัครหรือไม่ โดยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ หรือโทรสายด่วน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน