วันนี้ 7 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า อนายสมาน คูหา รองนายก อบต.เลาขวัญ  นางเกษร ชาวสวน กำนันตำบลเลาขวัญ นางหงษ์ทอง ศรีบุญมี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 15 นายสมบัติ สิริกิจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 นายเคียง ทองแก้ว อดีตกำนันตำบลเลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี แกนนำ พร้อมด้วยชาวบ้าน หมู่ 7 หมู่ 12 และหมู่ 15 ต.เลาขวัญ กว่า 200 คน

ได้เดินทางไปรวมตัวที่บริเวณถนนด้านหน้าโครงการก่อสร้างโรงงานเผายางของบริษัทเอกชน ที่ประกอบการธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงสาย 4052 ทุ่งกระบ่ำ-เลาขวัญ หมู่ 7 ต.เลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เพื่อประท้วงให้บริษัทดังกล่าวหยุดการก่อสร้างโรงงาน

เนื่องจากยังไม่มีการทำประชาคมและขอความคิดเห็นจากชาวบ้าน การประท้วงครั้งนี้นายวิชัย ปัทมวิภาค นายอำเภอเลาขวัญ ได้มอบหมายให้นายวีระ หิรัญกุล ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองอำเภอเลาขวัญ ไปพบพร้อมกับรับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้าน

โดยชาวบ้านที่มาประท้วงได้นำรถเครื่องขายเสียงมาปราศรัย พร้อมชูแผ่นป้ายมีใจความว่า “พวกเราชาวบ้านตำบลเลาขวัญไม่ต้องการโรงเผายาง ไม่ต้องการกระทบสิ่งแวดล้อม ไม่ต้องการสร้างมลพิษ ไม่ต้องการส่งกลิ่นเหม็น”เป็นต้น 

ต่อมาแกนนำชาวบ้านได้มอบหนังสือคัดค้านการก่อสร้างโรงงานเผายาง ให้นายวีระ หิรัญกุล ปลัดอำเภอเลาขวัญ เพื่อส่งต่อไปยังจังหวัดกาญจนบุรี โดยหนังสือดังกล่าวนั้นมีเนื้อหาว่า เนื่องด้วย บริษัทฯ ได้เริ่มทำการก่อสร้างโรงงงานเผายาง บริเวณหมู่ที่ 7 ต.เลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ซึ่งยังไม่ได้ประชาคมและขอความคิดเห็นจากชาวบ้าน ที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตบริเวณพื้นที่รอบๆ จำนวน 3 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 7, 12,15 ต.เลาขวัญ มีโรงเรียนจำนวน 1 แห่ง วัดจำนวน 3 แห่ง ชาวบ้านอีกพันกว่าชีวิต เป็นที่อยู่อาศัยและเป็นพื้นที่เกษตรกรรมของชุมชน

 ที่ผ่านมานับกว่า 10 ปี มีการสร้างโรงงานเผายางตรงสถานที่ดังกล่าวจึงทำให้ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก เมื่อปีที่ผ่านมา วันที่ 22 สิงหาคม 2565 ชาวบ้านได้ทำการร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ จนในที่สุดโรงงานเผายางก็หยุดสร้างไป ช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน 2566 ได้เริ่มก่อสร้างขึ้นอีกครั้งทางผู้สร้างโรงงานเผายาง อ้างว่าเขาทำถูกต้องตามกฎหมายโดยที่ยังไม่ได้มีการประชาคมและขอความเห็นชอบจากชาวบ้าน จึงขอคัดค้านการสร้างโรงงานเผายางบริเวณหมู่ที่ 7 ต.เลาขวัญ ชาวบ้านทั้ง 3 หมู่ เป็นผู้ที่เดือดร้อนมากที่สุด เนื่องจากอยู่ใกล้และเห็นพร้อมกันว่าได้รับความเดือดร้อนจากมลพิษ จึงขอให้ช่วยสั่งระงับจนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการทำการประชาคมทั้ง 3 หมู่บ้านเสียก่อน”

     

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายวีระ หิรัญกุล ปลัดอำเภอเลาขวัญ รับหนังสือแล้วเสร็จ ชาวบ้านได้ใช้เวลาอยู่ที่หน้าโครงการก่อสร้างไม่นานนัก ก็ทยอยกันกลับ โดยไม่มีเหตุการณ์อะไรเอกขึ้น