นายกฯ ชื่นชม! ความเข้มแข็งกองทุนหมู่บ้าน ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก ขอเพียงตั้งใจก็ประสบความสำเร็จ
8 ส.ค. 2566, 11:25
วันนี้ (8 สิงหาคม 2566) เวลา 08.30 น. ณ บริเวณหน้าตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เยี่ยมชมกิจกรรมการกระตุ้นและพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และรับทราบรายงานผลการดำเนินงานโครงการโคล้านครอบครัว จากนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.)
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้รับชมการนำเสนอผลผลิตจากโครงการโคล้านครอบครัว ซึ่งเป็นเนื้อโคเกรดพรีเมี่ยมและผลิตภัณฑ์จากโค ที่ผ่านการทดลองเลี้ยงและดูแลตามโครงการโคล้านครอบครัว โดยนายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมความสำเร็จของการดำเนินโครงการ ถือเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน ขอเพียงทุกคนมีความตั้งใจก็จะประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้แนะนำให้นักวิชาการเข้ามาช่วยเรื่องการแปรรูป รวมถึงการรักษาคุณภาพเนื้อโค พัฒนาคุณภาพและสายพันธุ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด ซึ่งเชื่อว่าคุณภาพและเนื้อโคของประเทศไทยมีคุณภาพที่ดีไม่ด้อยกว่าใคร นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมแนวคิดการผลิตผ้าจากมูลโค ขอให้ทุกคนร่วมมือ ช่วยกันคิดช่วยกันทำ นำประโยชน์จากสิ่งของที่มีในท้องถิ่นมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ และใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ในการสร้างช่องทางการตลาด
สำหรับโครงการโคล้านครอบครัวเป็นหนึ่งในโครงการที่รัฐบาลมีความตั้งใจอย่างมุ่งมั่นที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจฐานรากให้กลับมามีความเข้มแข็ง ประชาชนโดยเฉพาะภาคการเกษตรสามารถมีอาชีพ มีรายได้อย่างยั่งยืน ผ่านการทำการเกษตร-ปศุสัตว์ คือ การเลี้ยงโค ซึ่งโครงการนี้ได้ผ่านการหารือของคณะรัฐมนตรีและอนุมัติวงเงินงบประมาณ 5,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นเงินทุนกู้ยืมให้แก่สมาชิกกองทุนฯ จำนวน 100,000 ครัวเรือน ๆ ละ 50,000 บาท สำหรับจัดซื้อโคมาเลี้ยง 2 ตัว/ครัวเรือน ระยะเวลาในการกู้ยืมเงินทุนตามโครงการ 6 ปี โดยเงินทุนโครงการอยู่ในการดูแลของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จุดเด่นของโครงการคือ รัฐบาลจะช่วยชดเชยดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4% เป็นระยะเวลา 4 ปี เท่ากับว่าสมาชิกไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย ใน 4 ปีแรก ซึ่งหากโคที่เลี้ยงสร้างรายได้ สามารถคืนเงินทุนได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ส่วนเงินที่ได้จากการเลี้ยงโคในปีต่อ ๆ ไป ถือเป็นกำไรแก่สมาชิก
ทั้งนี้ การเลี้ยงโคตามโครงการโคล้านครอบครัว ถือเป็นการเลี้ยงโคต้นน้ำ และเป็นการกระตุ้นให้เกษตรกรหันมาทำการปศุสัตว์ทดแทนหรือควบคู่การเพาะปลูกที่มีความเสี่ยงจากปัจจัยราคาและสภาพภูมิอากาศ ซึ่งโครงการนี้ได้รับความสนใจจากเกษตรกรทั่วประเทศ โดยรัฐบาลตั้งเป้าเป็นโครงการที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างเข้มแข็งในอนาคต