"หนุ่มวัย22" เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ทำร้ายแม่ป่วยเป็นมะเร็ง ไล่ตีน้องชาย แถมทำลายของภายในวัด
12 มิ.ย. 2562, 10:19
วันที่ 12 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีภาพกล้องวงจรปิดจับภาพ หนุ่มคลั่ง เมายาบ้า ทำร้ายแม่จนเลือดอาบ เอาไม้หน้าสามไล่ตีน้องชาย แถมยังทำลายข้าวของภายในวัด บริเวณวัดปากบาง ต.งิ้วงาม อ.เสาไห้ จ.สระบุรี จึงได้ลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบพบพระครูประสิทธิ์ ฐฺญยกร เจ้าอาวาสวัดปากบาง พร้อมตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด โดยจากภาพกล้องวงจรปิดจะพบว่านางริน อายุ 57 ปี ซึ่งป่วยเป็นมะเร็ง ผู้เป็นแม่ ได้เดินหนีเข้ามาทางลานวัดและได้ล้มลง
จากนั้นได้มีนายแน๊ต อายุ 16 ซึ่งเป็นน้องชาย เข้ามาพยุงร่างแม่ให้ลุกขึ้นและพาเดินหลบหนี จากนั้นได้มีนายนุ อายุ 22 ปี ซึ่งติดยาบ้า และอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ถือไม้หน้าสาม เข้ามาทำท่าเงื้อมือจะฟาดที่ตัวนายแน๊ตโดยมีนางริน ขวางไว้อยู่ซึ่งยืนอยู่ในอาการอ่อนเพลียรวยริน นายแน๊ต จึงได้พาผู้เป็นแม่เดินหลบหนีออกไปเปลี่ยน เสื้อผ้าที่เปื้อนเลือด
จากนั้นช่วงเวลาค่ำของวันเดียวกัน นายนุซึ่งตามหายนายแน๊ตอยู่ เพื่อที่จะทำร้ายน้องชาย ได้เข้ามาหานางริน ซึ่งได้เดินหลบหนีมาหา พระครูประสิทธิ์ ได้มีนายนุ ซึ่งยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งยาอยู่ ได้เดินถือก้อนอิฐขนาดใหญ่ เข้ามาขวางใส่นางริน แต่ไม่ถูก จากนั้นได้เข้ามาทำลายโต๊ะ เก้าอี้ ภายในวัดจนแตกกระจายเสียหาย อย่างบ้าคลั่ง พร้อมตะโกนบอกให้นางริน นำตัวนายแน๊ต น้องชายออกมา
ทางด้านพระครูประสิทธิ์ เล่าต่อว่า เดิมทีนายแน๊ต ซึ่งเป็นน้องชายได้มาอาศัยวัดอยู่ เพียงลำพัง เพื่อมาศึกษาเล่าเรียนที่ตัวเมืองสระบุรี ต่อมาได้นำนางริน(ผู้เป็นแม่)ซึ่งป่วยเป็นมะเร็ง เข้ามาอาศัยอยู่ด้วย เพื่อที่จะได้ดูแลแม่ได้ใกล้ชิด อยู่มาได้ไม่นานนักนายนุ ซึ่งเป็นพี่ชายได้มาอาศัยอยู่ด้วย ชอบเสพยาบ้าจนมีอาการคลุ้มคลั่ง วันเกิดเหตุ นายนุ ได้เสพยาและมีอาการคลุ้มคลั่ง ได้เกิดมีปากเสียกับนายแน๊ต จนเข้าทำร้ายร่างกายกัน นางรินได้เข้ามาห้าม ได้ถูกนายนุ ทำร้ายร่างกายจนบอบช้ำ มีเลือดออกตามร่างกาย ซึ่งทางวัดได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เสาไห้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมรับแจ้งความ ต่อมามีคนนำภาพไปลงในไลน์ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสถานที่ที่เกิดเหตุ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายนุ เข้าไปคุมขังไว้ใน สภ.เสาไห้ 1 คืน ต่อมาช่วงเช้าได้ปล่อยตัวนายนุออกมาสร้างความเดือดร้อนอีก ซึ่งทางด้านพระครูประสิทธิ์ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุตัวนายนุ เข้าไปบำบัด หรือคุมขังไว้ เนื่องจากเกรงว่าจะมาสร้างความเดือดร้อนให้กับทางวัดอีก และเป็นภัยกับสังคม