"ทิพานัน" ยกรายงาน SCB EIC ชี้แนวโน้มธุรกิจค้าปลีกปี 66 มูลค่าตลาดพุ่ง 3.7 ล้านล้าน
10 ส.ค. 2566, 14:49
วันนี้ ( 10 ส.ค.66 ) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รายงานของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) มองว่า ธุรกิจค้าปลีก มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นต่อเนื่องในปี 2566 คาดว่ามูลค่าตลาดจะเติบโตราว 10% จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นและการฟื้นตัวของการบริโภค โดยคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 3.7 ล้านล้านบาท โดยกลุ่ม Store-base retailing จะกลับมามีมูลค่าเท่าก่อนช่วงโรคระบาดในปี 67 ส่วน Non-store retailing ยังคงเติบโตต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในรายงานระบุว่า ครึ่งแรกของปี 2566 ธุรกิจค้าปลีกสามารถเพิ่มยอดขายจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาในประเทศมากขึ้นในครึ่งหลังของปี 2566 “นับเป็นสัญญาณที่ดี สะท้อนประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ กำลังซื้อของประชาชนเพิ่มสูงขึ้น เกิดการจับจ่ายใช้สอย เป็นผลพวงของการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เดินมาถูกทางแก้ปัญหาตรงจุด ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจค้าปลีก และส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย ทีกำลังฟื้นตัว” น.ส.ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ที่สำคัญก็คือ รายงานของ SCB EIC ยังระบุว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความสำคัญประเด็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นไปที่ด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขณะที่ในด้านสังคม ผู้ประกอบการมุ่งเน้นการสร้างอาชีพ ท่ามกลางการให้ความสำคัญกับความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูล ในส่วนของผู้บริโภค โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว เช่น คนที่เกิดในยุค Millennial ยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อสินค้ารักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี สอดคล้องกับเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2573 และการปล่อยสุทธิในภาคการผลิตไฟฟ้าเป็นศูนย์ภายในปี 2583 และปล่อยให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 ตลอดจนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ หรือ BCG โมเดล โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นหมายกรุงเทพจากการประชุมเอเปคที่ผ่านมา