โอละพ่อ! สาววัย 31 แจ้งตร.อ้างถูกกระชากกระเป๋าแต่จำจุดไม่ได้ ตำรวจไล่กล้องวงจรปิด สุดท้ายคดีพลิก
13 ส.ค. 2566, 11:17
ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์หญิงสาวสวมเสื้อแขนสั้นกางเกงขาสามส่วนเดินริมถนนมือทั้งสองข้างถือสิ่งของอยู่จากนั้นเดินเข้าภายในซอยมือทั้งสองข้างก็ยังถือสิ่งของอยู่เช่นเดิมก่อนที่จะเดินเข้าห้องพักที่อยู่สุดมุมด้านบนของกล้องวงจรปิด คลิปจากกล้องวงจรปิดทั้งหมดนี้เป็นคลิปที่ต่อเนื่องไม่มีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้นกับหญิงสาวในคลิปแต่อย่างใดโดยเหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านบึงได้รับแจ้งว่ามีเหตุกระชากกระเป๋าริมถนนสาย 349 ถนนหนองชาก - พนัสนิคม (ขาเข้าพนัสนิคม) ม.2ต.หนองชากอ.บ้านบึงจ.ชลบุรีสายตรวจตำบลหนองชากและชุดสืบสวนสภ.บ้านบึงจึงเดินทางเข้าตรวจสอบเมื่อมาถึงก็พบกับนางสาวธัญพิมล(ขอสงวนนามสกุลและเบลอหน้า)อายุประมาณ31ปีที่อยู่ในท่าทีที่วิตกกังวลยื่นรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนว่าช่วงเวลาประมาณ17.42น.ของวันที่10สิงหาคม66ตนเองได้เดินเท้าออกจากร้านสะดวกซื้อเพื่อกลับเข้าห้องพัก(เดินย้อนศร)ภายในซอยหนองชาก 2/5 ระหว่างทางที่กำลังเดินกลับ ได้ถูกคนร้ายเป็นชายสองคนขี่ จยย.ซ้อนท้ายกันมาคนที่นั่งซ้อนท้ายได้กระชากกระเป๋าถือสีเขียวที่มีเงินอยู่ภายในกระเป๋าจำนวน300บาทและโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงเอ04เอสที่ถือในมือข้างซ้ายมูลค่า5900บาทไปโดยที่ตนเองจดจำรูปพรรณสันฐานของคนร้ายเพียงแค่คนร้ายที่ซ้อนท้ายรูปร่างผอม สูง ผมสั้น หลังจากเกิดเหตุได้เดินกลับไปที่ห้องเนื่องจากทำอะไรไม่ถูก และกลับมาที่จุดเกิดเหตุขอโทรศัพท์จากร้านขายส้มตำโทรหาแฟนหนุ่มของตนเองที่พึ่งออกไปทำงานให้มาหาที่เกิดเหตุเพื่อให้พาไปแจ้งความต่อมาทางชุดสืบสวนและสายตรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อย้อนดูเหตุการณ์ ว่าคนร้ายใช้รถ รุ่น ยี่ห้อ สีอะไร แต่ไม่เห็นมีเหตุการณ์ตามที่นางสาวธัญพิมลให้การเอาไว้แต่อย่างใด กระเป๋าถือก็อยู่ในมือข้างหนึ่ง โทรศัพท์มือถือก็อยู่ในมืออีกข้างหนึ่ง เดินเข้าไปในซอยที่มีห้องพักปรกติทางด้าน ร.ต.อ.ฉลองศักดิ์ ภูเวียนวงศ์ หัวหน้าชุดสืบสวน จึงได้เรียกนางสาวธัญพิมล มาพูดคุยเพื่อสอบถามให้แน่ใจโดยแยกตัวมาให้ห่างจากแฟนหนุ่ม ถามอีกครั้งว่าทั้งหมดที่เล่ามาเป็นความจริงหรือโกหกนางสาวธัญพิมลก็ยังยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงมีคนร้ายมากระชากกระเป๋าถือกับโทรศัพท์ตนเองไปจริง ทาง ร.ต.อ.ฉลองศักดิ์จึงได้แจ้งกับนางสาวธัญพิมล ว่าดูจากกล้องวงจรปิดแล้วไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นเลยเมื่อจำนนด้วยพยานหลักฐานจริงนางสาวธัญพิมลจึงยอมรับว่าแต่งเรื่องขึ้นมาเอง เนื่องจากกลัวว่าทางแฟนหนุ่มจะด่าทอเรื่องเงินสามร้อยบาทที่ตนแอบโอนให้ลูกไปเมื่อสักครู่ตนเข้าไปร้านสะดวกซื้อเพื่อโอนเงินที่เคาท์เตอร์ให้ลูกจริง(ลูกกับอดีตสามีเก่า)300บาทหลังจากนั้นเดินกลับห้องพักไม่ให้แฟนหนุ่มรู้ว่าแอบส่งเงินให้ลูกจึงกุเรื่องขึ้นมาว่ามีคนร้ายกระชากกระเป๋ากับโทรศัพท์มือถือไปตอนนั้นตนเดินกลับไปที่ห้องเอากระเป๋ากับโทรศัพท์ไปซ่อนใต้ชั้นวางเสื้อผ้าและออกมารอแฟนหนุ่มบริเวณปากซอย เพื่อพาไปแจ้งความที่โรงพักนางสาวธัญพิมล ยังกล่าวต่อไปอีกว่าขอร้องให้ปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับไม่ให้แฟนหนุ่มรู้ได้ไหม ถ้าหากว่าแฟนหนุ่มรู้จะต้องถูกทำร้ายอย่างแน่นอน และไม่ให้เงินตนใช้อีกตนเองไม่ได้ทำงานป่วยเหลือไตข้างเดียวอยู่เฉยๆไม่ได้ทำงาน เนื่องจากแฟนหนุ่มโมโหง่าย ใจร้อน ชอบลงมือทำร้ายตนเองอยู่บ่อยๆ ตนเองรักแฟนหนุ่มจึงยอมทน และขอพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้นในห้องพักตรงที่ตนเองเอากระเป๋ากับโทรศัพท์ไปซ่อน โดยไม่ให้แฟนหนุ่มไปร่วมตรวจค้นด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งว่าถ้าทำตามคำร้องขอก็จะทำให้แฟนหนุ่มเข้าใจผิดว่ามีการเกิดเหตุจริง อีกอย่างเป็นการ กุเรื่องขึ้นมา เท่ากับเป็นการแจ้งความเท็จผิดกฏหมายจึงจำเป็นที่จะต้องเชิญตัวมาบันทึกจับกุมส่งพนักงานสอบสวนสภ.บ้านบึงดำเนินคดีส่วนเรื่องภายในครอบครัวจะเรียกแฟนหนุ่มมาปรับความเข้าใจต่อหน้ากันระหว่างทั้งคู่ถ้ามีการทำร้ายร่างกายก็มาแจ้งความดำเนินคดีว่าไปตามข้อเท็จจริง