วันนี้ ( 13 ส.ค.66 ) ภ.สรุปสถานการณ์แม่น้ำโขง ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2566 เวลา 11.00 น. ในช่วงวันที่ 10-15 สิงหาคม 2566 มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 2 จังหวัด ได้แก่ นครพนมและบึงกาฬ จำนวน 17 อำเภอ 112 ตำบล 662 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,280 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 83,322 ไร่ 

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขอรายงานสถานการณ์อุทกภัยในลุ่มน้ำโขง ดังนี้ ตามที่ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง มีโทรสารด่วนที่สุด ที่ มท (กปภก) 0610/ว 124 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2566 โดยแจ้งว่า มีปริมาณฝนตกหนักสะสมในลุ่มน้ำโขงตอนล่าง และบริเวณแขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประกอบกับอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมทำให้ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่งผลให้ะดับน้ำในพื้นที่แม่น้ำโขงตอนล่างมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงวันที่ 10 - 15 สิงหาคม 2566 นั้น มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 2 จ. (นครพนม บึงกาฬ)17 อ. 112 ต. 662 ม. ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,280 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 83,322 ไร่ 

โดย จ.บึงกาฬ วันที่ 13 ส.ค. 66 จากสถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่และระดับน้ำในแม่น้ำโขงสูงขึ้นระหว่าง วันที่ 27 ก.ค. - 13 ส.ค. 66 ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ 5 อ. 31 ต. 220 ม. ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,315 ครัวเรือน ได้แก่ อำเภอพรเจริญ บึงโขงหลง โซ่พิสัย เซกา ศรีวิลัย ถนนเสียหาย 1 แห่ง คอสะพานเสียหาย 1 แห่ง พื้นที่การเกษตร 25,241 ไร่ โดย ผวจ.บึงกาฬ ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำในพื้นที่ ทั้งนี้ ผวจ. ได้ลงพื้นที่ ติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งรัดการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่เสี่ยงตลอดแนวแม่น้ำโขงและจัดทำสะพานชั่วคราวให้ประชาชนใช้สัญจร ปัจจุบันระดับน้ำคงที่