วันที่15 ส.ค. 66 ที่หอประชุมศูนย์ราชการ ศาลากลางจังหวัดสระบุรี สมาคมอุตสาหกรรมปูนชีเมนต์ไทย (TCMA) และจังหวัดสระบุรี พร้อม 21 หน่วยงาน ประกาศเจตนารมณ์ "ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (Public-Privato Partnership: PPP) ในการพัฒนาจังหวัดตันแบบ-สระบุรีเมืองคารับอนต่ำ 'PPP-.Saraburi Sandbox: A Low Carbon City' โดยการสนับสนุนของ 7 กระทรวง เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการตันแบบ ตามสาข1 Thailand NDC Roadmap มุ่งสนับสนุนเป้าหมายไทยลดก๊ซเรือนกระจก พร้อมเป็นดันแบบขยายผลไปจังหวัดอื่น รวมทั้งยกระดับพัฒนาสระบุรีสู่เมืองอุดสาทกรรมสีเขียวอัจฉริยะ สังคมแห่งคุณาาพชีวิต โดยมี คร. ชนะ ภูมี นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) นายผล

ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ดร. กิตติพงศ์ พร้อมวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ น.อ.ศ.ดร.ธนากร พีระพันธุ์ นายกสมาคมคอนกรีตแห่งประเทศไทย นายปริญญา คุ้มสระพรหม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระบุรี เข้าร่วมภายในงาน

 

    ดร. ชนะ ภูมี นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนชีเมนต์ไทย (TCMA) กล่าวว่า โดยความร่วมมือของผู้ผลิดปูนซีเมนต์ชั้นนำของไทยทุกราย ภายใด้การทำงานของ TCMA อยู่ระหว่างขับเคลื่อนลดก๊ซเรือนกระจก ตามเป้าหมาย Thailand 2050 NET ZERO Cement & Concrete Roadmap ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ วันนี้นับเป็นโอกาสดีอีกครั้งหนึ่ง ที่ TCMA ได้มาร่วมมือกับจังหวัดสระบุรี และ 22 หน่วยงาน ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ นับเป็นจุดเริ่มตันที่สำคัญในการขับเคลื่อนลดก๊าซเรือนกระจก 'สระบุรีแซนด์บ็อกซ์-เมืองดาร์บอนต่ำ' หรือ 'PPP.Saraburi Sandbox: A Low Carbon City' นี้ เป็นการทำงานในรูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (Pubic Privato Partnership: PPP) โดยจำลองจังหวัดสระบุรี เป็นเสมือนตัวแทนประเทศไทย เป็นตันแบบทดสอบการปฏิบัติลดก๊ซเรือนกระจก ผ่านโครงการตันแบบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นดามกรอบความร่วมมือ ในแต่ละสาขา สอดคล้องตาม Thailand NDC Roadmap ครอบคลุมทั้งภาคพลังงาน ภาคกระบวนการทางอุดสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์ ภาคการจัดการของเสีย ภาดการเกษตร และภาดป่าไม้ และการใช้ประโยชน์ที่ดิน มีเป้าหมายให้จังหวัดสระบุรีเป็นเมืองคาร์บอนต่ำ มีการพัฒนาเติบโตอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง BCG ที่มุ่งการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า บนสังคมที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ TCMA จึงพร้อมนำอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และคอนกรีตของไทยสนับสนุนจังหวัดสระบุรี และร่วมมือกับทุกภาดส่วนขับเคลื่อน'สระบุรีแซนด์บ็อกซ์-เมืองคาร์บอนต่ำ ให้มีความก้าวหน้าและบรรลุเป้าหมาย" ดร.ชนะ ภูมี ให้ความมั่นใจ

 

 

     นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า จังหวัดสระบุรีศักยภาพด้านอุตสาหกรรมที่เป็นฐานการผลิตอุดสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ เป็นแหล่งผลิตปูนซีเมนต์อุดสาหกรรมก่อสร้างที่สำคัญ และเป็นจังหวัดที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง จึงให้ความสำคัญในการพัฒนาจังหวัดแบบองค์รวม ดามแนวทางเศรษฐกิจชีวภาพ เตรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) มีเป้าหมายยกระดับพัฒนาจังหวัดสระบุรี สู่เมืองอุดสาหกรรมสีเขียวอัจฉริยะ สังคมแห่งคุณภาพชีวิต สร้างสมดุลด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) และสอดคล้องกับนโยบายลดก๊าซเรือนกระจก ของประเทศที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (CarbonNeutrality) ในปี 2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Not Zoro GHG Emission) ในปี 2608

 

     "สระบุรีแซนด์บ็อกซ์-เมืองคาร์บอนต่ำ หรือ 'PPP-Saraburi Sandbox: A Low Carbon City' นับเป็นโครงการเรือธงลดก๊าซเรือนกระจกของจังหวัดสระบุรี ระหว่างปี 2566-2569 โดยการสนับสนุนของ 7 กระทรวง ที่ทุกภาคส่วน ทั้งจากภาครัฐ ภาดเอกชน อุดสาหกรรมปูนซีเมนต์โดย TCMA องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มธุรกิจดำางๆ ในจังหวัดสระบุรี จะได้มาร่วมกันขับเคลื่อนดำเนินการ ตัวอย่างโครงการในระยะแรก อาทิ 1.การใช้ผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ ด้วยการส่งเสริมปูนซีเมนไฮดรอลิกในทุกงานก่อสร้าง 2. การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานดาร์บอนต่ำ (Energy Transition) ด้วยการจัดการวัสดุเหลือใช้จากภาคอุดสาหกรรม/ ภาคชุมชน (Waste to Energy) พลังงานชีวมวล (Biomass) พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Power) พืชพลังงาน (Plant Energy) 3. การทำนาน้ำน้อย 4. การเพิ่มพื้นที่สีเขียวจากการปลูกป่า 5. การศึกษาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนและนำไปใช้ประโยชน์/ กักเก็บ (Carbon1 Capture Utiization/ Storage) และจะขยายเพิ่มเติมให้ครอบคลุมในด้านอื่นๆ ต่อไป ซึ่งจะทำให้จังหวัดสระบุรีเป็นเมืองดาร์บอนต่ำ สอดคล้องตามเป้าหมายของจังหวัดเมืองอุดสาหกรรมสีเขียวอัจฉริยะ สังคมแห่งคุณภาพชีวิต เพื่อประโยชน์ของซาวสระบุรี สามารถเป็นต้นแบบการบูรณาการความร่วมมือลดก๊ซเรือนกระจก และขยายผลไปยังจังหวัดอื่น รวมทั้งสามารถตอบสนองแผนงานลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศได้ตามเป้าหมาย"