โจรเหิมล็อคประตูขังพระในกุฏิ งัดตู้เงินบริจาคพระประจำจังหวัดหนีลอยนวล
15 ส.ค. 2566, 17:58
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 15 สิงหาคม 66 ร.ต.อ.อาทิตย์ บุตรละคร รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากพระมหาสมภพ วันตะภะโว พระผู้ดูแลสถานที่บนยอดเขาช่องกระจก ว่า เกิดเหตุงัดแงะขโมยเงินบริจาคภายในตู้เซฟของวัดธรรมิการาม วรวิหาร ซึ่งตั้งอยู่ด้านบนยอดเขาช่องกระจก ภายในวิหารฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมงคลคีรีขันธ์ พระประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจึงรายงาน ให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นพร้อมด้วย พ.ต.ท.ชุมพล บางจันทึก รองผู้กำกับปราบปราม สภ.เมืองประจวบฯ พ.ต.ท.สราวุธ อิ่มจิต รองผู้กำกับ สบ.3 หัวหน้าชุดตรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดตรวจพิสูจน์หลักฐาน ร่วมตรวจที่เกิดเหตุ
โดยสถานที่เกิดเหตุอยู่บนยอดเขาช่องกระจก ซึ่งเป็นที่ตั้งประดิษฐานพระมหาธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และประดิษฐานพระพุทธมงคลคีรีขันธ์ รอยพระพุทธบาทจำลอง และกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งต้องเดินเท้าขึ้นบันไดไป 396 ขั้น โดยจุดเกิดเหตุอยู่ภายในวิหารฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ซึ่งประดิษฐานพระพุทธมงคลคีรีขันธ์ พระประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้จัดสร้างขึ้นจากมวลสารสถานที่สำคัญทั้งจังหวัด
จากการตรวจสอบพบว่าตู้เซฟถูกงัดแงะขโมยเงินบริจาค จำนวน 2 ใบ มูลค่าประมาณกว่า 1 หมื่นบาท โดยตู้เซฟใบแรกเป็นตู้รับเงินบริจาคสำหรับซื้อเครื่องดื่มไว้แจกให้นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาได้ดื่ม ส่วนอีก 1 ใบ เป็นตู้เซฟรับเงินบริจาคสำหรับการจัดสร้างสถานที่วัด และได้สูญหายไปจำนวน 1 ใบ นอกจากนี้ประตูเหล็กด้านทางขึ้นมีร่องรอยการตัดตาข่ายเหล็ก แล้วแหวกเป็นช่องเพื่อมุดเข้าไปได้รับความเสียหาย 1 จุด ประตูกุฏิด้านหลังวิหารถูกงัดกุญแจได้รับความเสียหาย โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตามแกะสืบหาจากร่องรอย พบว่าตู้เซฟที่สูญหายไป 1 ใบ ถูกหัวขโมยนำไปโยนทิ้งไว้บริเวณด้านทิศใต้ของวิหาร ซึ่งเป็นไหล่เขาและเป็นป่าหนามแหลมคมทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเก็บกู้พยานหลักฐานด้วยความทุลักทุเล นอกจากนี้ยังพบว่าซองทำบุญบริจาคของวัดที่ถูกขโมยไปถูกนำไปทิ้งไว้ใกล้กับสถานีรถไฟเมืองประจวบจำนวนหนึ่งด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายภาพเก็บพยานหลักฐาน และจะได้แกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดโดยรอบ พร้อมตรวจหาลายนิ้วมือแฝงเพื่อเร่งติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุน่าจะมีมากกว่า 2 คนขึ้นไปในการร่วมกันก่อเหตุครั้งนี้***
ด้านพระมหาสมภพ วันตะภะโว พระลูกวัด ที่ดูแลสถานที่และจำวัดอยู่ที่กุฏิบนยอดเขาช่องกระจก เปิดเผยว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุน่าจะเป็นช่วงระหว่างหลังเที่ยงคืนถึงตี 4 เนื่องจากก่อนจำวัดได้ตรวจสอบและปิดล็อคประตูโดยรอบไว้เรียบร้อยหมดแล้ว และกลับเข้าไปจำวัดภายในกุฏิซึ่งอยู่ด้านล่างของวิหาร จากนั้นตื่นขึ้นมาจากการจำวัดช่วงเวลา 04.00 น.เพื่อจะปฏิบัติกิจของสงฆ์ ก็พบว่าออกจากกุฏิไม่ได้ เนื่องจากถูกหัวขโมยใช้เหล็กคล้องประตูและนำลวดมามัดไว้เพื่อขังพระไว้ภายใน จึงได้พยายามเปิดประตูและออกมาดูพบว่าประตูรั้วเหล็กโดนงัด ประตูพระวิหาร และตู้เซฟเก็บเงินรับบริจาคถูกงัดแงะจนเสียหาย โดยเงินภายในตู้บริจาคสูญหายไปเกลี้ยงกว่า 10000 บาท นอกจากนี้ตู้เซฟบริจาคยังสูญหายไปอีก 1 ใบ รวมไปถึงประตูกุฏิ ด้านหลังพระวิหารถูกงัดประตูจนพังแล้ว ถูกขโมยกระป๋องสังฆทานสูญหายไปอีก 1 ใบด้วย โดยคาดว่าหลังก่อเหตุคนร้ายได้นำเครื่องดื่มน้ำอัดลมในตู้เย็นมานั่งดื่มอย่างสบายใจ จำนวน 1 กระป๋อง ที่บริเวณด้านหน้าวิหารอีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุงัดแงะลักขโมยในลักษณะเช่นนี้หลายครั้ง แต่ความเสียหายไม่มากจึงไม่ได้มีการแจ้งความ โดยให้อภัยผู้ก่อเหตุมาโดยตลอด ซึ่งถือว่าใครทำดีก็ได้ดี ใครทำชั่วไม่ดีก็จะได้รับสิ่งไม่ดีกลับไป แต่ครั้งนี้ถือว่าเสียหายมากที่สุด จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ