เหนือเมฆ! โจรเมืองคอน ยกเค้าตู้เอทีเอ็มกรุงไทย ห่างจากป้อมตำรวจแค่ 100 กว่าเมตร
18 ส.ค. 2566, 11:46
เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 17สิงหาคม2566ได้มีนางสาว จันทิรา แซ่หลิ่ม รองผู้จัดการธุรกิจการขาย ธ.กรุงไทย ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.จิตรกร คงเหลือ สว.(สอบสวน)สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีเหตุคนร้ายงัดแงะและใช้แก๊สตัดเผาตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย บริเวณสี่แยกบ้านหน้าทัพ หน้าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 8 ริมถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี หมู่ 15 บ้านหน้าทัพ ต.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังจากถูกคนร่ายไม่ต่ำกว่า 2-3 คนปีนกำแพงโรงเรียนเข้าไปงัดแงะ ตัดและใช้แก๊สตัดกุญแจบริเวณหลังตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งติดตั้งไว้ให้บริการคณะครู อาจารย์ ผู้ปกครองและประชาชนทั่วไปภายในรั้วโรงเรียนดังกล่าว
รับแจ้งแล้วจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช,พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช,พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.(สอบสวน),พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.จิตตกรณ์ คงเหลือ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุการโจรกรรมเงินสดในตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งตู้เอทีเอ็มดังกล่าวได้ติดตั้งริมกำแพงด้านหน้าของ รร.ดังกล่าว ด้านข้างเป็นรั้วอิฐบล็อคสามารถปีนเข้าไปได้ และด้านริมฟุธบาทธด้านหน้าโรงเรียนพบตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยยังอยู่ในภสพาปกติ และด้านหลังพบร่องรอยคนร้ายปีนกำแพงด้านข้างเข้าไปใช้แก๊สตัดกุญแจจำนวน2ตัวออกแล้วคนร้ายซึ่งมีความชำนาญในการตัดแก๊สได้เข้าไปตัดกล่องเหล็กบรรจุเงินสด ทำการโจรกรรมเงินสดไปได้จำนวนหนึ่ง
โดยในเบื้องต้นพบว่าคนร้ายได้งัดแงะและตัดพร้อมใช้แก๊สที่เตรียมมาเผาตัดอุปกรณ์ชิ้นส่วนของตู้เอทีเอ็ม จนสามารถแยกยกออกมาจากฐานที่ติดตั้งและเอาเงินในตู้ ฯไปได้จำนวนหนึ่ง หลบหนีไปอย่างลอยนวล ทางพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ทำการถ่ายรูปและเก็บร่องรอยลายนิ้วมือของคนร้ายอย่างละเอียด ก่อนจะนำอุปกรณ์ชิ้นส่วนตู้เอทีเอ็ม กลับมาที่ สภ.ท่าศาลา ก่อนเชิญพนักงานเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงไทย มาสอบสวนปากคำ และทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและตามเส้นทางในละแวกใกล้เคียงเพื่อรวบรวมหลักฐานนำไปสู่การติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป
จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ธนาคาร ได้ให้ว่าเมื่อวานนี้ (15 ส.ค.) ในเวลาประมาณ 16.00 น.เจ้าหน้าที่ธนาคารได้นำเงินมาใส่ในตู้เอทีเอ็มดังกล่าวโดยรถนิรภัยของธนาคารจำนวน 6,240, 000 ล้านบาท คาดว่าในเวลาประมาณ ตี 1 -ตี2 ของวันที่ 17 ส.ค.2566 คนร้ายได้ปีนข้ามรั้วกำแพงโรงเรียนด้านข้างเข้ามาปฏิบัติการงัด ใช้แก๊สตัดเผาด้านหลังตู้ยกเค้าเงินสดในตูเอทีเอ็มไปได้และสามารถหลบหนีไปได้อย่างบอยนวล ทิ้งอุปกรณ์ชิ้นส่วนตู้เอทีเอ็มไว้ให้ตำรวจดูต่างหน้าจำนวนหนึ่ง
ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่ายังมีเงินในตู้เหลือ 4,588,800 บาท ถูกประชาชนกดถอนไปตามปกติก่อนหน้า 1,254, 200 บาท สรุปเงินที่คนร้ายเงินสดได้ไป 397,000 บาท ในขณะที่ราคาตู้เอทีเอ็มเสียหาย 250,000 บาทในเบื้องต้น รวมค่าเสียหายเบื้องต้น 647,000 บาท ซึ่งทาง พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และนายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับรายงานเหตุการณ์จึงสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งสอบสวนสืบสวนแกะรอยติดตามคนร้ายและจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว พร้อมมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.สส.บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช จัดกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่ร่วมสอบสวนสืบสวนคลี่คลายคดีและติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร่งด่วน. เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญคนร้ายกล่าลงมือก่อเหตุแม้จะอยู่ริมถนนสายหลักและอยู่ห่างจากป้อมตำรวจสี่แยกหน้าทัพประมาณ100เมตรเศษ ล่าสุดตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงพบว่าคนร้ายมาด้วยกันประมาณ 2-3คนมากับรถยนต์กระบะ 4 ประตู ไม่ทราบสี ยี่ห้อ อยู่ระหว่างการตรวจสอบไล่ล่าคนร้ายแก๊งนี้ต่อไป