เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"เศรษฐา" ปล่อยคลิปยาว โต้เดือด "ชูวิทย์" ปมที่ดินแสนสิริ ลั่นพร้อมสู้หากโดนฟ้อง


18 ส.ค. 2566, 15:59



"เศรษฐา" ปล่อยคลิปยาว โต้เดือด "ชูวิทย์" ปมที่ดินแสนสิริ ลั่นพร้อมสู้หากโดนฟ้อง




วันนี้ ( 18 ส.ค.66 ) วันนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ปล่อยคลิปความยาว 7.44 นาที ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงตอบโต้ นาย
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ได้ออกมาแฉในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ-ขายที่ดินของบริษัทแสนสิริในช่วงที่ นายเศรษฐา ดำรงตำแหน่งผู้บริหารบริษัทแสนสิริ ในหลายประเด็น โดยระบุว่า

สวัสดีครับ ผมเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และอดีตผู้บริหารบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ในการทำธุรกิจของผม เป็นที่รับทราบและยอมรับของสังคมมาโดยตลอด วันนี้ผมออกมาพูดในฐานะที่เคยเป็นผู้บริหารบริษัทแสนสิริ และในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย บริษัทแสนสิริ ผ่านพ้นวิกฤติมาหลากหลายรูปแบบ ทีมงานทุกคนบริหารงานอย่างโปร่งใส ในรูปแบบของคณะกรรมการ ตามข้อบังคับของบริษัทและตลาดหลักทรัพย์ เราทำงานตามหลักธรรมาภิบาล แสนสิริเติบโตในวงการอสังหาริมทรัพย์ อย่างมั่นคง เข้มแข็ง ไม่เคยถูกตั้งข้อกล่าวหา หรือแม้กระทั่งตั้งคำถามถึงความโปร่งใส ในการทำงานและการประกอบการของบริษัทแต่อย่างใด

ผมออกมาวันนี้เพื่อให้ข้อเท็จจริง และตอบคำถามของสังคมในกรณีการจัดซื้อที่ดินของแสนสิริ และเรื่องนอมินี ในขณะที่ผมเป็นผู้บริหาร ยืนยันว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การซื้อขายที่ดินเพื่อประกอบการบริษัท เราดำเนินการด้วยความถูกต้องตามกฎหมายในทุกขั้นตอน ไม่เคยมีวิธีการนอกระบบกฎหมาย เพื่อเบียดบังผลประโยชน์ของรัฐ หรือ แสวงหาประโยชน์เป็นการส่วนตัว ผมขอปฏิเสธข้อกล่าวหาในทุกกรณีที่คุณชูวิทย์นำมากล่าวอ้าง ซึ่งเต็มไปด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนให้เกิดความเสียหาย ในทุก Episode ที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำมาสร้างกระแสนั้น ไม่ว่าจะเป็นที่ดินแปลงสารสิน หรือ ที่ดินซอยทองหล่อ เป็นเรื่องเเบบเดียวกัน คุณต้องยอมรับว่าแสนสิริในฐานะผู้ซื้อ ทำธุรกรรมกับผู้ขายรายต่างๆ โดยชำระค่าที่ดินตามราคาตลาด ที่สมเหตุสมผล สัญญาซื้อขายเป็นสัญญาต่างตอบแทน ผู้ซื้อและผู้ขายมีหน้าที่ต้องชำระหนี้ซึ่งกันและกัน รวมทั้งหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายกำหนด 

บริษัทแสนสิริ คือ ผู้ซื้อ ซึ่งไม่สามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการบริหารภายในของฝ่ายผู้ขายได้ในทุกขั้นตอน ฝั่งผู้ซื้อ ไม่มีนอมินี ไม่มีการปล่อยกู้ให้ผู้ขาย ความจริงเป็นการจดจำนองเพื่อเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญาและห้ามผิดสัญญาของบริษัทผู้ขาย และประกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเป็นจำนวนเงิน 1,000 ล้านบาท มีหลักฐานชัดเจน ผมยืนยันไม่มีการทำสัญญากู้ครับ อีกทั้ง ไม่มีการสมคบคิดใดๆ และไม่เคยมีเงินทอนใดๆ กลับมาที่ผม หรือพนักงานแสนสิริคนไหนทั้งสิ้น 

แปลงโครงการคุณ บาย ยู มูลค่าที่ดินราคา 1,100,000 บาทต่อตารางวา เป็นราคาที่ดินที่ถือว่าดีมาก ราคานี้ไม่มีเงินทอนให้ใครหรอกครับ ขอย้ำอีกครั้งว่า คุณชูวิทย์ต้องแยก ผู้ขาย กับ ผู้ซื้อให้ได้ อย่าบิดเบือน และแสนสิริไม่มีนอมินีแน่นอน หลังจากนี้คุณจะพูดเรื่องที่ดินอีกกี่แปลงก็ได้ คุณต้องแยกผู้ขาย กับผู้ซื้อให้ชัดเจน คุณชูวิทย์ต้องใช้ความจริงที่ไม่บิดเบือน คุณโกรธเคืองที่บริษัทไม่ซื้อที่ดินคุณที่ซอย สุขุมวิท 24 เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว เราตกลงกันจากราคา 2,000 ล้านบาท เหลือ 1,800 ล้านบาท แต่ที่ดินคุณชูวิทย์มีเงื่อนไขติดพันกับบริษัทไรมอนแลนด์ แสนสิริไม่สามารถซื้อที่ดินที่มีนิติกรรมซ้อนได้ คุณไม่พอใจ แต่เพราะเงื่อนไขของที่ดินคุณเอง แสนสิริเป็นบริษัทมหาชน ผมทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็น และไม่มีอะไรที่ผิดกฎหมาย และรวมถึงไม่ผิดจริยธรรมใดๆ

ที่ผ่านมา 10 เดือน ตั้งแต่กันยายนปีที่แล้ว จนมาถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในวันที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังจากที่ข่าวออกเรื่องมติพรรคเสนอชื่อผมในสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรี ผมโดนข่มขู่ คุณฝากข้อความผ่านคนใกล้ชิดของคุณมา สั่งให้ผมมัดจำเงินเพื่อซื้อที่ดินของคุณ และทำ MOU แบบไม่มีเงื่อนไขในการซื้อขายที่ดินของคุณ ผมไม่ได้ทำอะไรผิด คุณไม่มีสิทธิ์มาข่มขู่ผม คุณติดต่อผู้ใหญ่มากมายให้มาบอกผมว่า คุณจะแฉผม และทำทุกอย่างเพื่อให้ผมไม่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าจะให้ไม่แฉ ให้ผมตกลงซื้อที่ดินราคา 2,000 ล้านทันทีแบบไม่มีเงื่อนไข ไม่งั้นคุณชูวิทย์จะเดินหน้า ดิสเครดิตและด้อยค่าผมต่อไป คุณชูวิทย์บิดเบือนไปถึงเรื่อง Digital Wallet ทำให้ประชาชนเข้าใจว่า นโยบายนี้จะเป็นการฟอกเงินผ่านทางคอยน์อะไรเลอะเทอะไปหมด ผมขอให้คุณชูวิทย์ อย่าได้เอาเรื่องนโยบาย Digital Wallet ของพรรคเพื่อไทยมาโจมตีอย่างไม่มีหลักการ โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี มีผลประโยชน์ต่อประขาชนต่อประเทศชาติอย่างมาก สามารถช่วยเหลือประชาชนได้เป็นจำนวนมากถึง 50 ล้านคน ทั้งผู้ผลิต การจ้างการ การยกระดับความเป็นอยู่ของคนไทยทุกคน และเป็นนโยบายสำคัญที่สุดอันหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทันที ทำให้ประเทศนั้นสามารถพลิกกู้กลับมาอีกครั้ง และงบประมาณทั้งหมดจะถูกส่งตรงไปยังประชาชนทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป

การที่ผมพูดความจริงในครั้งนี้ ผมรู้ว่าคุณชูวิทย์ต้องไม่พอใจและอาจจะฟ้องศาล ผมก็พร้อมที่จะนำพยานหลักฐานไปสู้คดีกับคุณชูวิทย์ในศาลต่อไป ผม เศรษฐา ทวีสิน ชีวิตผมตรวจสอบได้หมดทุกอย่าง ลูกผมมีงานที่ดีทำทุกคนไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามทีผมไม่มีอะไรต้องห่วง ที่ทุกคนเตือนผมว่า อย่าลงการเมือง มันเปลืองตัว ผมขอบคุณในความหวังดีของทุกท่าน
แต่ผม เศรษฐา ทวีสิน วันนี้ผมตัดสินใจเอง ผมอาสาเข้ามาตรงนี้เพราะอยากทำให้ประเทศชาติ และเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เพิ่มรายได้ให้ประเทศ ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากวันแรกที่ผมตัดสินใจจะทำจนถึงวันนี้ ผมมั่นใจจะทำเพื่อประเทศชาติเหมือนเดิม ผมย้ำอีกครั้ง ศัตรูของผมคือความยากจน และความไม่เสมอภาคของประชาชน เป้าหมายของผม คือ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทยทุกคนขอบคุณครับ

 









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.