คุมตัว "เป้ วัดเท" มือเจาะตู้เอทีเอ็ม ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
21 ส.ค. 2566, 12:31
กรณีคนร้ายบุกใช้แก๊สเจาะเผาตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ที่ตั้งอยู่หน้าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์8 สี่แยกหน้าทัพ ริมถนนสาย401 นครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี หมู่ 15 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 01.00น.วันที่ 17สิงหาคมที่ผ่านมา โดยได้เงินเป็นธนบัตรแบงค์1000ไปเป็นจำนวน 397,000บาท และล่าสุดเมื่อค่ำวันที่ 19สค.2566 ตำรวจชุดสืบสวนภาค8 ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดนครศรีธรรมราชและตำรวจสภ.ท่าศาลา ได้สามารถจับกุมนายอนุชาหรือ”เป้ วัดเท” หนูน้อย อายุ 32ปี คนร้ายรายนี้มาได้พร้อมตามยืดเงินสดของกลางกลับคืนมาได้จำนวน217970บาทที่ซุกซ่อนในลำโพงของแผ่นซากประตูรถยนต์เก่าที่บ้านเลขที่ 64/1 หมู่ 5 ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ยังเหลือเงินอีกจำนวน179,030 บาทอยู่ระหว่างการค้นหาเงินสดที่ยังหายไป และตำรวจยังตรวจยึดของกลางเป็นถังแก๊งปิคนิคสำหรับใช้เจาะตู้เอทีเอ็มมาได้ด้วยและตามยึดรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถยนต์กระบะ4ประตู คามิโอ้ สีเขียวทูโทน ทะเบียน กข-1847 นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นรถของวัดแห่งหนึ่งใน อ.ท่าศาลาที่ผู้ต้องหายืมมาขับใช้ก่อเหตุ โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำเพียงคนเดียว สาเหตุเพราะมีหนี้สินล้นตัวเลยคิดสั้นก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็มดังกล่าวจนถูกตำรวจตามจับได้ในที่สุด และตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลนั้น
ล่าสุดบ่ายวันนี้(20สค.2566)ทาง สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้คุมตัวนายอนุชาหรือเป้ หนูน้อย อายุ 32ปีผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณที่เกิดเหตุตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย หน้า รร.ราชประชานุเคราะห์8 สี่แยกหน้าทัพ ริมถนนสาย401นครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี หมู่ 15 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยเริ่มจากจุดที่ขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ประตู คามิโอ้ สีเขียวทูโทน ทะเบียน กข-1847 นครศรีธรรมราชผ่านจุดต่างๆตามที่เห็นในคลิ๊ปกล้องวงจรปิดแล้วไปจอดรถบริเวณด้านข้างริมถนนใกล้ๆกับตู้เอทีเอ็ม ซึ่งเป็นจุดมืดอับทึบแล้วเดินลงจากรถขนอุปกรณ์ถังแก๊งสปิคนิคพร้อมหัวเจาะปีนกำแพงด้านหลังตู้เอทีเอ็ม แล้วลงมือใช้แก๊สตัดกุญแจจำนวน2ดอกของตู้เอทีเอ็มแล้วเปิดประตูเข้าไปด้านในหลังตู้เอทีเอ็มเข้าไปใช้แก๊สทำการเจาะกล่องเหล็กบรรจุเงินสด ใช้เวลาลงมือทำการเจาะตู้เอทีเอ็มอยู่นานประมาณ2ชม.อย่างใจเย็นก่อนใช้มือล้วงเอาเงินสดในกล่องเหล็กที่เจาะได้จำนวน397,000บาท ขนอุปกรณ์ถังแก๊สตัดเจาะปีนกำแพงกลับมาขึ้นรถพร้อมเงินสดขับหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุอย่างใจเย็นทันที จนมาถูกตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะทำแผนประกอบคำรับสารภาพมีประชาชนจำนวนมากบริเวณใกล้เคียงมามุงดูการทำแผนด้วยความสนใจในครั้งนี้ด้วย.