วันที่ 10 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าว onb news  จ.สกลนคร รายงานว่า กรณีเพจเฟสบุ๊กฅนภูพาน ได้แชร์เรื่องราวว่ามีผู้เสียหายที่ถูกตบทรัพย์ จากแก๊งขับรถเฉี่ยวชนคนร้ายใช้รถเก๋งมาสด้า 2 สีดำ หมวด จ.ราชบุรี หมายเลขทะเบียนชัด และมีรถกระบะอีก 1 คัน ร่วมแก๊ง มีผู้หลงตกเป็นเหยื่อเสียเงินไปหลายราย ซึ่งเหตุดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ จ.สกลนคร โดยเป็นข้อมูลลักษณะเดียวกันกับเพจเฟสบุ๊กของสมาคมกู้ภัยเรณูนครในพื้นที่ จ.นครพนม แต่ครั้งนั้น เหยื่อไหวตัวทันจึงได้ออกมาโพสต์แจ้งเตือน และมีการแชร์กันออกไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการแชร์เรื่องราวเฟสบุ๊กของชาว สปป.ลาว ที่ข้ามมายังฝั่งไทย เมื่อวันที่ 1 ต.ค.62 ก็โดนลักษณะในเดียวกัน แต่มีการแอบบันทึกภาพและเสียงไว้แต่ไม่ทราบสถานที่ เหยื่อได้พูดหว่านล้อมลักษณะรู้ทันต้องการเบอร์ติดต่อ แต่คนร้ายก็บ่ายเบี่ยงจนต้องยอมถอยจากเหยื่อไป

จากโพสต์เฟสบุ๊กดังกล่าว ประกอบกับการแสดงความคิดเห็นของผู้ใช้เฟสบุ๊ก ในเพจฅนภูพานทั้งพ่อแม่ญาติก็โดนลักษณะเดียวกันหมด ทำให้เห็นว่าคนร้ายออกลงมือหาเหยื่อด้วยวิธีเดียวกัน คือใช้รถเก๋งมาสด้า 2 สีดำ ตามภาพ ขับช้าๆรอเหยื่อขับรถแซงขึ้นมา จากนั้นจะมีรถกระบะขับตามหลังมาจี้ติดๆ และกระพริบไฟไล่บังคับให้รถเหยื่อชิดซ้ายส่วนใหญ่จะตกใจและหักหลบเข้าข้างซ้าย รถของเหยื่อจึงไปเฉี่ยวชนกับรถของคนร้ายที่ขับอยู่ในเลนซ้าย จากนั้นผู้ชายที่ขับรถเก๋งสีดำจะลงมาเจรจา โดยใช้วิธีการดูลักษณะรถคนขับ ยิ่งรถไม่ต่อภาษีจะยิ่งง่าย เพราะจะมีการเคลียร์กันให้จบ ด้วยจำนวนเงินตามที่แก๊งมิจฉาชีพต้องการ เพื่อไม่ให้เรื่องไปถึงตำรวจและประกัน เพราะจะทำให้ยุ่งยาก ขณะนี้พบว่ามีการก่อเหตุแล้วในพื้นที่ อุดรธานี นครพนม สกลนคร เบื้องต้นทราบว่าใช้ทะเบียนปลอม

พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผบก.ภ.จว.สกลนคร เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้เสียหายเข้าแจ้ง ทราบเพียงว่าเป็นการแชร์กันในเฟสบุ๊กเท่านั้น และได้กำชับให้กำลังทุกสถานี หากพบว่ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ต้องสอบสวนโดยละเอียดว่าเข้าข่ายในกรณีดังกล่าวหรือไม่ เพราะผู้เสียหายไม่แจ้งความร้องทุกข์ และเรื่องนี้ต้องมองไปสองด้านว่า อาจเกิดขึ้นจริงหรือเป็นอุบัติเหตุจริง ดังนั้นถ้าเกิดเหตุการณ์เฉี่ยวชนในลักษณะที่น่าสงสัย ควรเรียกตำรวจหรือตามด้วยประกัน อย่าอยู่หรือเจรจากันตามลำพัง เมื่อรู้ว่าตกเป็นเหยื่อยิ่งดีที่สุดคือหากมีหลักฐานสำคัญ เช่น กล้องหน้ารถหรือภาพจากมือถือ ให้หอบเอาหลักฐานที่มี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป พร้อมแนะใช้แอป police i rert u ซึ่งจะชี้ตำแหน่งจุดเกิดเหตุ ตำรวจจะไปที่เกิดเหตุทันที