"คนขับแบ็คโฮ" สุดหลอน! กลิ่นศพทารกตามมาถึงบ้าน จุดธูปกราบไหว้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้
10 ต.ค. 2562, 11:42
จากกรณีที่นายประสิทธิ์ ถือพุทธ อายุ 42 ปี คนขับรถแบ็กโฮ ได้รับการว่าจากเจ้าของที่ดินให้ปรับพื้นที่บริเวณหน้ารีสอรท์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และพบซากศพเด็กทารกอายุครรภ์ครบกำหนดคลอด ถูกยัดใส่ในถุงพลาสติกนำมาทิ้งไว้ในพงหญ้าหน้ารีสอรท์ ตรวจสอบเป็นทารกเพศชาย ลักษณะผิวพรรณดี น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม สภาพศพทารกสะดือยังติดคารกถูกห่อด้วยผ้าขนหนูสีขาว และใส่ถุงพลาสติกทับอีกชั้น นอจากนี้ในถุงพลาสติกยังมีผ้าขนหนูขนาดต่างๆ ที่เปื้อนเลือดจำนวนหลายชิ้น คาดทารกเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง หลังเกิดเหตุทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมือง ลงพื้นที่สืบสวน สอบสวน เร่งติดตามคนร้ายที่นำศพทารกมาทิ้ง เบื้องต้นคาดว่าเป็นแม่วัยรุ่นหรือแม่ไม่พร้อมเกิดตั้งครรภ์ และคลอดทารก ก่อนจะนำมาทิ้งอำพรางแล้วหลบหนี ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ 10 ต.ค.62 ผู้สื่อข่าวลงพื้นตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบนายประสิทธิ์ ถือพุทธ อายุ 42 ปี คนขับรถแบ็คโอ และเจ้าของรถแบ็คโฮ กำลังเร่งปรับพื้นที่ให้เจ้าของที่ดิน ส่วนที่เกิดเหตุยังมีการล้อมเชือกขาว – แดง ห้ามคนไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ ซึ่งคาดว่าทางตำรวจชุดสืบสวนจะลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง ขณะที่ผู้ดูแลรีสรอท์ดังกล่าว ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆ กับผู้สื่อข่าว อ้างว่าข้อมูลทั้งหมดให้กับทางตำรวจหมดแล้ว
ส่วนคดี ทาง พ.ต.อ.เทเวศร์ ปลื้มสุทธิ์ ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวน ติดตามหาคนร้ายที่นำศพทารกมาทิ้งมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ ใจอำมหิต เบื้องต้นจากการสอบสวนพนักงานรีสอรท์ และบริเวณรีสอรท์ยังไม่พบความผิดปกติใด ๆ แต่ได้รายชื่อผู้เข้าพักคืนก่อนพบศพทารกมาตรวจสอบแล้ว ขณะที่กล้องวงจรปิดของรีสอรท์พบว่าใช้การไม่ได้มานานแล้ว ส่วนหน้ารีสอรท์ไม่มีกล้องวงจรปิด ทางชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบตามเส้นทางใกล้เคียงรีสอรท์ว่ามีกล้องวงจรปิดหรือไม่ ส่วนศพทารกส่งให้ทางนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ผ่าชันสูตรพลิกศพ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ว่าทารกเสียชีวิตก่อนคลอดหรือคลอดแล้ว ทำให้เสียชีวิต แล้วนำมาทิ้งอำพราง คาดใช้เวลาประมาณ 30 วัน จึงทราบผล
นายประสิทธิ์ คนพบศพทารก เล่าว่า หลังเกิดเหตุเมื่อวานนี้ พบว่ากลิ่นศพของทารกยังคงติดตัวตนไปถึงบ้านพัก ขนาดอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้ว แต่ยังคงมีกลิ่นศพทารกชัดเจน แม้กระทั้งก่อนนอนกลิ่นศพของทารกยังคงไม่เลือนหาย ตนต้องจุดธูปไหว้บอกกล่าวว่าหลังปรับพื้นที่ดังกล่าวเสร็จจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ ตนเชื่อว่าวิญญาณของทารกยังอยู่ที่เกิดเหตุ เนื่องจากเมื่อวานนี้หลังชันสูตรพลิกศพ ไม่ได้มีการนิมนต์พระสงฆ์หรือทำพิธีอัญเชิญวิญญาณทารก อย่างไรก็ตามทางเจ้าของที่ดิน ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างแจ้งกับตนว่าภายใน 1 – 2 วันนี้ จะนิมนต์พระสงฆ์ประกอบพิธีทางศาสนา เพื่ออุทิศส่วนกุศลในที่เกิดเหตุให้ทารกที่เสียชีวิต เพื่อความสบายใจและเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องที่สร้างความสลดหดหู่ให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก แม้กระทั้งตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิฯ รู้สึกสงสารเด็กทารกที่เสียชีวิต ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เรียกร้องให้ทางตำรวจเร่งติดตามแม่ใจร้ายที่นำลูกในไส้ของตัวเองมาทิ้งอย่างใจร้าย ใจอำมหิตและเลือดเย็นผิดมนุษย์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร็วที่สุด พร้อมรุมสาปแช่งแม่ใจร้ายและคนที่ก่อเหตุให้ได้รับเวรกรรมที่ทำภายใน 3 วัน 7 วัน ในขณะที่บรรดาคอหวย แห่นำตัวเลขที่เกี่ยวกับรถแบ็คโฮ เช่น เลข 75 ที่ติดอยู่บริเวณตัวถังแบ็คโฮ เพื่อไปเสี่ยงโชค เพราะเชื่อว่าทารกจะให้โชคอย่างแน่นอน ถือเป็นการตอบแทนหลังจากรถแบ็คโฮคัดดังกล่าวพบศพของทารก