"เศรษฐา" เผย โผ ครม.นิ่งแล้ว ส่งตรวจคุณสมบัติวันนี้ ยัน รมว.กลาโหม เปิดชื่อจะไม่ผิดหวัง
28 ส.ค. 2566, 13:46
วันนี้ ( 28 ส.ค.66 ) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย พบกับสมาคมชาวไร่อ้อย ที่มาแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 จากนั้นกล่าวถึงรายชื่อคณะรัฐมนตรีว่า วันนี้รายชื่อ ครม. นิ่งทั้งหมดแล้ว หลังจากหารือกันเมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล โดยวันนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะเข้ามารับรายชื่อทั้งหมด เพื่อไปตรวจสอบคุณสมบัติ
สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นบุคคลจากภายนอก หรือบุคคลในพรรค นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้รอความชัดเจนและไม่ทราบเรื่องการคัดค้านชื่อพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ แต่ก็ได้อ่านจากโซเชียลมีเดียบ้าง ยืนยัน หากเปิดรายชื่อออกมาจะไม่ผิดหวัง โดยขอให้ดูที่ผลงาน ใครก็ตามที่พรรคร่วมรัฐบาลเลือกกันมาแล้วก็คงจะทำงานเต็มที่ให้กับประชาชน พร้อมย้ำว่า ขอให้อดใจรอ แต่ก็ยอมรับว่า มีทั้งคนสมหวังและผิดหวังซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็พยายามเต็มที่ให้ทุกคนได้รับตำแหน่ง อีกทั้งยังมีตำแหน่งที่ปรึกษา ตำแหน่งเลขาฯ ที่จะต้องมาร่วมกันทำงานจากทุกภาคส่วน เมื่อมีคนเยอะขึ้นเราก็จะทำงานได้ดีขึ้น ส่วนจะสามารถนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ ได้เมื่อไหร่ ส่วนตัวไม่ทราบขั้นตอน เป็นเรื่องของหน่วยงานที่ต้องตรวจสอบ เข้าใจว่าอาจจะใช้เวลา 2-3 วัน ส่วนจะทันวันที่ 1 กันยายนนี้หรือไม่นั้นคงก้าวล่วงไม่ได้
นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ฝากถึงรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรื่องการปฏิรูปกองทัพว่า ส่วนตัวย้ำมาตลอดว่า ไม่อยากใช้คำว่าปฏิรูป แต่เป็นการพัฒนาร่วมกันดีกว่า ซึ่งนโยบายนี้ได้พูดไปแล้ว แต่ยังต้องดูความเหมาะสมและพูดคุยกับผู้นำเหล่าทัพทั้งหมด ซึ่งจะต้องเจรจากัน
นายเศรษฐา ยังคาดว่า จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาได้เร็วกว่าช่วงกลางเดือนกันยายนที่วางไทม์ไลน์ไว้ โดยจะพยายามเร่งให้เต็มที่ เพราะพรรคเพื่อไทยได้เตรียมการไว้หมดแล้ว รวมถึงจะต้องเร่งให้ทันการประชุม UN ในช่วงสิ้นเดือนกันยายนนี้ด้วยหรือไม่นั้น ขอดูขั้นตอนก่อน เพราะตามมารยาทจะต้องเดินทางเยือนประเทศกลุ่มอาเซียนก่อนหรือไม่ เนื่องจากตนเองเป็นมือใหม่ จึงขอศึกษาก่อน แต่ยอมรับว่า เวทีประชุม UN เป็นเวทีใหญ่ที่จะมีโอกาสได้พบปะกับผู้นำทั่วโลก ซึ่งอาจจะได้หารือเรื่องธุรกิจการค้าไปด้วย
นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังเปิดเผยว่า วันนี้ตนเองมีประชุมหลายคณะ รวมถึงรับฟังข้อเสนอแนะและหาแนวทางแก้ไขด้านการบิน เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวร่วมกับผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบิน 8 แห่ง เพื่อหารือถึงการแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า ไตรมาสที่ 4 จะเป็นการกระตุ้นให้ภาคเอกชนเตรียมตัว และในช่วงต้นเดือนตุลาคมจะเป็นวันชาติจีน เพื่อให้ภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวจับตลาดในเวลานี้ให้ได้ โดยเฉพาะสายการบินต่างๆที่ต้องมีความพร้อม และจะต้องครอบคลุมไปถึงความมั่นคงและความปลอดภัย ซึ่งการท่องเที่ยว ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีที่สุดในระยะสั้น ก่อนที่จะเริ่มเดินหน้านโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ในไตรมาสแรกของปีหน้า