เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ศาลสั่งจำคุก ! "3 ผู้ชุมนุม" คนละ 3 ปีไม่รอลงอาญา เซ่นคดีเผารถตำรวจใต้ทางด่วน ปี 65


30 ส.ค. 2566, 15:04



ศาลสั่งจำคุก ! "3 ผู้ชุมนุม" คนละ 3 ปีไม่รอลงอาญา เซ่นคดีเผารถตำรวจใต้ทางด่วน ปี 65




วันที่ 30 สิงหาคม 2566 เวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีเผารถยนต์ตำรวจ หมายเลขดำ อ.1847/2565 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องนาย วัชรพล นาคสวย นายพลพล จิตรสุภาพ นายจตุพล บุญพูล และนายณัฐพล เหล็กแย้ม ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 14 ตามลำดับในความผิดฐานร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง,ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นให้ได้รับความเสียหาย,ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยอัยการโจทก์ฟ้องระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2565 ต่อเนื่องกัน ถึงเวลากลางคืน จำเลยกับพวกประมาณ 50 -80 คน ซึ่งรวมเยาวชนชายอีก 2 คน ซึ่งถูกแยกตัวดำเนินคดีได้ร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปมั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวาย ทำกิจกรรมทางการเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง ถนนวิภาวดี ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความปลอดภัย 



นอกจากนี้ พวกจำเลยยังร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์รถยนต์ตราโล่หมายเลขทะเบียน 07444 และรถยนต์หมายเลขทะเบียน 6 กจ 5593 กทม. ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้ปฏิบัติหน้าที่จนได้รับความเสียหายเป็นเงิน 91,692 บาท ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 215 216 ,พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (9)ฯ

จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว

โดยวันนี้ จำเลยทั้งสี่พร้อมทนายความเดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัดศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานโจทก์จำเลยทั้งสองฝ่ายแล้ว เห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์เบิกความในข้อเท็จจริงมีรายละเอียดสอดคล้องกันว่า ในวันเกิดเหตุ มีการชุมนุมปราศรัยที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเสร็จแล้ว เวลาประมาณ 18.00 น ต่อมาหลังจากตรวจสอบภาพวงจรปิดและภาพจากสื่อออนไลน์พบว่ามีผู้ชุมนุมประมาณ 50-80 คนขี่รถจักรยานยนต์ มาร่วมกันมั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายที่บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 โดยมีการขวางปาสิ่งของ ยิงลูกแก้วหนังสะติ๊ก ปะทัดและลูกกระทบ ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงไม่ใช่การชุมนุมทางการเมืองโดยสงบปราศจากอาวุธ เป็นการมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ที่จำเลยที่ 1,3 และ 4 อ้างว่าแค่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ไม่ได้เผาทำลายรถยนต์ 2 คัน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นฟังไม่ขึ้น เห็นว่าจำเลยทั้งสาม กระทำผิดตามฟ้องจริง
 


พิพากษาว่า จำเลยที่ 1,3 และ 4 กระทำผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำคุก ฐานร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นบทหนักสุด ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1,3 และ 4 มีอายุ 18-19 ปีเศษ ย่อมรู้ผิดชอบชั่วดีแล้ว เห็นควรให้จำคุกจำเลยที่ 1, 3 และ 4 คนละ 4 ปี คำเบิกความของจำเลยทั้งสามเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้คนละ 1 ใน 4 คงจำคุกจำเลยที่ 1,3 และ 4 คนละ 3 ปี ไม่รอลงอาญาส่วนจำเลยที่ 2 พยานหลักฐานโจทก์ฟังได้เพียงว่า กระทำผิดฐานขัดขืนคำสั่งของเจ้าพนักงานตำรวจที่บอกให้หยุดแต่ไม่ยอมหยุดเท่านั้น ไม่ปรากฏภาพว่าจำเลย ที่ 2 ร่วมวางเพลิงเผาทรัพย์รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ให้จำคุก 2 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ 1 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานการฟังคำพิพากษาในวันนี้มี น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ 'ตะวัน' อดีตสมาชิกกลุ่มทะลุวังกลุ่ม จำเลยคดีหมิ่นเบื้องสูงและเพื่อนของจำเลยทั้งสี่ กว่า 10 คน เดินทางมาให้กำลังใจ ขณะที่ทนายความของจำเลยทั้ง 4 เตรียมยื่นประกันตัวระหว่างอุทธรณ์สู้คดีต่อไป






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.