เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ประยงค์ ศรีสารคาม ร้อยเวร 20 ชุดควบคุมฝูงชน สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 5 นาย ได้รับแจ้งจากนายดำรง สุริยะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านหัวบึง ต.พังทุย อ.น้ำพอง ว่ามีลูกบ้านมีอาการคุ้มคลั่งทางประสาทเนื่องจากเสพสารเสพติด ขู่ทำร้ายบุพการีและคนครอบครัวพร้อมชาวบ้านข้างเคียง ในมือถือเหล็กแหลม พูดจาเพ้อเจ้อ เดินวนเวียนภายในหมู่บ้าน สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านไปทั่ว ให้มาควบคุมตัวด้วย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำอุปกรณ์ในการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่เป็นเหล็กประปาขนาดยาวประมาณ 4 เมตร ปลายทำเป็นง่ามโค้งไว้คอยดันตัวหามีการต่อสู้ในระยะห่าง แต่ขณะเดียวเจ้าหน้าที่อีกชุดได้เข้าไปไกล่เกลี่ยพูดคุยจนทราบชื่อชายคนดังกล่าวว่า นายตุ้ม พยายามชวนคุยทำให้ชายคุ้มคลั่งได้ลดความคลั่งลง ซึ่งชายคนดังกล่าวได้ถือเหล็กแหลม พร้อมกับยืนคุยกับชายอีกคนที่อยู่ที่หน้าบ้าน ซึ่งมีอาการสลึมสลือ ในระหว่างมีการเกลี้ยกล่อมอยู่นั้น ชายคนที่ยืนอยู่ด้วยกันได้เข้าทำการล็อคแขนไว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปคุมตัวได้แต่โดยดี นำเหล็กแหลมออกจากมือ ก่อนที่จะนำตัวขึ้นรถสายตรวจ ระหว่างนั้นนายตุ้ม ได้พูดจาตัดพ้อน้อยใจเกี่ยวกับเรื่องครอบครัว พยายามขืนไม่ขึ้นรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่าที่จะนำตัวขึ้นรถได้ต้องมีการกล่อมไปด้วยและคุมตัวขึ้นรถไปด้วยท่ามกลางญาติพี่น้องเข้ามาดูเหตุการณ์แต่ไม่ได้มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด

ทางด้านนายใจ แข็งขัน บิดาของนายตุ้ม กล่าวว่า นายตุ้มเป็นบุตรชายของตนเอง ชื่อจริงว่า นายพิพัธ แข็งขัน อายุ 41 ปี มีอาการทางประสาทมาหลายปีแล้ว เนื่องจากเสพยาบ้ามาก่อน จึงได้นำตัวไปบำบัดรักษาหลายที่ แต่ก็หวนกลับมาเสพอีก โดยก่อนหน้าน้า ลูกชายเคยไปทำงานประเทศไต้หวัน หลังจากที่บำบัดหาย โดยทิ้งลูกและเมียไว้ที่บ้าน สามารถทำงานเก็บเงินทองมาจุนเจือครอบครัว จนก็หลงเชื่อใจว่าอาการเสพยานั้นหายแล้ว แต่พอกลับมาอยู่บ้าน หันกลับไปหายาเสพติดอีก ทำให้เกิดอาการคุ้มคลั่ง จะทำร้ายคนภายในครอบครัว หลายครั้ง จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวไป

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายตุ้ม ส่งโรงพยาบาลน้ำพอง และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่น เพื่อทำการรักษาต่อไป