อ.ส.ค. จัดโครงการขยายผลการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้สู่การปฏิบัติจริง (DPO KM Culture)
5 ก.ย. 2566, 17:43
วันที่ 5 กันยายน 2566 นายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เป็นประธานจัดมหกรรมการจัดการความรู้นวัตกรรม และวัฒนธรรมองค์กร(KM & Culture Festival) ภายใต้โครงการขยายผลการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้สู่การปฏิบัติจริง (DPO KM Culture) ณ อาคารอเนกประสงค์ ฝ่ายท่องเที่ยวเชิงเกษตร องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) มีมุ่งมั่นในการขยายผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และ สร้างวัฒนธรรมจัดการความรู้เพื่อยกระดับทุนมนุษย์เป็นมืออาชีพ ตามหลักธรรมาภิบาลโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ท้ังนี้เพื่อขยายผลการแลกเปลี่ยนและใช้ประโยชน์สู่การปฏิบัติงานทุกหน่วยงานในสังกัด อ.ส.ค. (DPO Daily Operation) โดยเน้นการขยายผลกิจกรรมจัดการความรู้ให้เกิดการแบ่งปันความรู้ให้กัน ผ่านชุมชน นักปฏิบัติ (CoP) จึงมีความจำเป็นต้องจัดโครงการขยายผลการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้สู่การปฏิบัติจริง (DPO KM Culture) เพื่อการทบทวนขยายผลการใช้ความรู้ให้เกิดประโยชน์ในงานประจำและเชื่อมโยงสู่การสร้าง นวัตกรรมพัฒนาองค์กร พัฒนาและยกระดับการจัดการความรู้เชื่อมโยงองค์ความรู้กับการวัดสมรรถนะองค์กร ตามแผนวิสาหกิจอย่างบูรณาการต่อเนื่อง สนับสนุนวัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ (แผนแม่บทการจัดการความรู้ (KM) : SO5) การบริหารจัดการองค์กรเพ่ือสร้างมูลค่าเพิ่ม ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล การวิจัย พัฒนาและนวัตกรรมในระบบจัดการความรู้ที่ส่งเสริมความรู้ เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ที่สร้างคุณค่าสู่องค์กรชั้นนำด้านอุตสาหกรรมโคนมในระดับอาเซียน อีกทั้งเพื่อเป็นการขยายผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และใช้ประโยชน์องค์ความรู้พัฒนางานและนวัตกรรมในองค์กร สร้างวัฒนธรรมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ครอบคลุมทุกส่วนงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร เพื่อประยุกต์ใช้ฐานข้อมูล องค์ความรู้จากระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อขยายผลสู่แนวปฏิบัติที่ดี(Best practice) ที่ครอบคลุมกระบวนการหลักในองค์กร โดยการขยายผลการจัดการความรู้สู่วัฒนธรรมการจัดการความรู้ ต่อยอดการพัฒนาผลการสร้างองค์ความรู้ที่จำเป็นท้ังในรูปแบบ Strategic Based รวมถึง Operation Based กระตุ้นให้ถอดบทเรียนโดยชุมชนนักปฏิบัติ ด้วยการกระตุ้นให้แสวงหาความรู้ทั้งจากภายในและภายนอกองค์กรสู่การรวบรวม จัดเก็บ เรียบเรียงองค์ความรู้ และเผยแพร่สู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และใช้งานจริงในงานประจำ
นายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า จริงๆวันนี้มหกรรม การจัดองค์การความรู้นวัตกรรมและเรื่องวัฒนธรรมองค์กรณ์ เนื่องจากว่า อ.ส.ค.เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เราทำธุรกิจ ฉะนั้นการทำธุรกิจที่มีการแข่งขัน ถ้าคนในองค์กรเราส่วนใหญ่ มีความคิดที่จะมุ่งเน้นคิดเรื่องความรู้ใหม่ๆ เรื่องนวัตกรรมใหม่ๆ และวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ตนเชื่อว่าเป็นการเสริมธุรกิจองค์กร โดยเฉพาะนมไทยเดนมาร์กที่เรามีอยู่ ถ้าพูดถึงเรื่องนวัตกรรมหลักๆที่เป็นรายได้หลักองค์กรคือเรื่องผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีหลายเรื่อง ที่ผ่านๆมาพวกเราใช้เวทีนี้ให้คนรุ่นใหม่มาคิดร่วมกันและสามารถที่จะนำไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ตอบโจทย์องค์กร ยกตัวอย่างเช่น นมโอเมก้า พลัส ซึ่งก็เกิดจากเวทีนี้ ตอนนี้ยอดขายกำลังมาแรงมาก เพราะฉะนั้นการจัดงานแบบนี้ทุกปี จะทำให้คนในอ.ส.ค. ได้คนรุ่นใหม่ๆมาคิดเรื่องใหม่ๆให้องค์กร ไม่ว่าจะเป็น ตั้งแต่เรื่องต้นน้ำ เรื่องเกี่ยวกับนมดิบ เรื่องการเลี้ยงวัว หรือเกี่ยวกับเรื่องโรงงานลดค่าใช้จ่าย เรื่องผลิตภัณฑ์ใหม่ และเรื่องการตลาด ทุกๆเรื่องมันคิดนวัตกรรมใหม่ๆทั้งหมด ซึ่งมันก็เกิดประโยชน์กับองค์กร แต่ถ้าคนในชุมชน อ.ส.ค. คิดแต่เรื่องนี้ องค์กรจะพัฒนาไปข้างหน้าเรื่อยๆและจะมีความยั่งยืนมากกว่า
สำหรับวันโคนมแห่งชาติปีนี้ สมเด็จพระเทพฯ ได้ตอบรับกับทาง อ.ส.ค.พระองค์จะสเด็จโดยการส่วนพระองค์ ในวันที่ 5 มกราคม 2567 เวลา 09.00 น. ปีนี้เราจะจัดงานเต็มรูปแบบ เพราะเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ช่วงโควิดเราก็ไม่ได้จัดงาน แต่ปีนี้ถ้าไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคในการจัดงาน ตนคาดว่าในปีนี้จะจัดงานอย่างเต็มรูปแบบ ในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา มีทั้งในเรื่องของนิทรรศการ การให้ความรู้ด้านต่างๆ เรื่องของต้นน้ำ เรื่องอาชีพการเลี้ยงโคนม หรือเรื่องที่กำลังฮอตๆในปัจจุบัน ก็คือเรื่องของอาชีพการเลี้ยงโคนมจะอยู่ยังไง จะจัดการยังไงในสภาพที่ต้นทุนต่างๆอะไรมันสูง และเรื่องการผลิตๆภัณฑ์ใหม่ๆ อีกเรื่องที่เป็นไฮไลท์ คือเรื่อง การแข่งขันประกวดโคนม ซึ่งมีวัวหลายๆรุ่น เช่น วัวรุ่น วัวสาว วัวรีดนม นอกจากนั้นยังมีการออกร้านของเอกชนทุกภาคส่วนที่มาร่วมทุกปี ไม่ว่าจะเป็น เรื่องอุสาหกรรมนม เรื่องทั่วไป เรื่องเกี่ยวกับเครื่องไม้เครื่องมือ ที่เกี่ยวกับการใช้ในฟาร์มโคนม ก็เป็นปีแรกที่ตนคิดว่า น่าจะเป็นงานใหญ่ ก็อยากจะเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่านที่ อาจจะเคยมาเที่ยวงานโคนมแห่งชาติ ในช่วงหน้าหนาวเดือนมกราคม หรือบางท่านที่ไม่เคยมาเลย ก็อยากให้มาเที่ยงานในช่วงดังกล่าว ในวันที่ 5 - 14 ม.ค.67 รวม 10 วัน ช่วงนั้นก็จะมีดอกประดู่แดง ดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานสวยงาม และยังมีวิวที่สวยงามด้วย นอกจากนั้นยังได้ความรู้ และประสบการณ์ในการที่มาเยี่ยม ในเรื่องวิชาการที่เราจัดขึ้นแล้ว ก็อยากเชิญชวนให้พี่น้องมาเที่ยว ซึ่งปีนี้เราจัดเต็มรูปแบบ
สำหรับการจัดมหกรรมการจัดการความรู้นวัตกรรม และวัฒนธรรมองค์กร(KM & Culture Festival) มีตัวแทนจากกลุ่มบุคลากรผู้ได้รับการเตรียมความพร้อมเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง (Facilitators) และกลุ่มบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในทุกฝ่ายของ อ.ส.ค. ทุกสำนักงานภาค จำนวน 200 คน เข้าร่วมกิจกรรมการจัดการความรู้ ครอบคลุมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องท้ังส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ให้เกิดผลลัพธ์เพื่อบุคลากรมีวัฒนธรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จนเกิดเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Organization Learning) มีเครื่องมือและวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best practice) นำไปต่อยอดสู่การเป็นองค์กรนวัตกรรมชั้นเลิศต่อไป