ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี รับแจ้งมีคนสูญหายใต้น้ำบริเวณบ่อทรายร้าง หมู่ 6 บ้านศรีทน ตำบลพิหารแดง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จึงประสานกำลังชุดค้นหาใต้น้ำของมูลนิธิเสมอกัน และชุดค้นหาใต้น้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู เขตอ่างทอง พร้อมอุปกรณ์เข้าร่วมค้นหาเพื่อช่วยเหลือที่เกิดเหตุเป็นบ่อทรายร้างเนื้อที่กว่า 17 ไร่ กว้างประมาณ 80 เมตร ยาวประมาณ 150 เมตรและมีความลึกกว่า 10 เมตร ที่เกิดเหตุพบเรือพายพลาสติกของผู้เสียชีวิตลอยอยู่ชายขอบบ่อในเรือมีตาข่ายดักปลา และอุปกรณ์หาปลา พร้อมปลานิล 1 ตัวปลาช่อน 2 ตัวน้ำหนักปลาประมาณ 2 กิโล

จากการสอบถามนางทองคำ อินสว่าง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 6 ต.พิหารแดง (เมียคนสูญหาย) เล่าว่าสามีชื่อนายชำนาญ เทพประสิทธิ์ อายุ 62 ปี ก่อนที่จะหายตัวไปช่วงเช้าได้ออกจากบ้านมาดูตาข่ายดักปลาที่วางดักปลาในบ่อทรายร้าง ว่ามีปลาติดบ้างหรือไม่จะได้เอาไปทำกับข้าวกินกันในบ้าน กระทั่งสายประมาณ 10 โมงเช้าไม่เห็นสามีกลับไปกินข้าว ด้วยความเป็นห่วงกลัวสามีจะอดข้าวตนจึงห่อข้าวมาให้แต่พอมาถึงกลับไม่เห็นสามีจึงเดินดูรอบบ่อทรายซึ่งกว้างใหญ่จนรอบก็ไม่เห็นจึงเอาถุงห่อข้าวไปแขวนไว้ที่ต้นไม้ข้างกระท่อม แล้วเดินกลับบ้านไปบอกลูกชายให้ช่วยตามหาแถวบ้านญาติ ใช้เวลาช่วยกันตามหาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าก็ไม่พบจึงแจ้งมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยและตำรวจให้มาช่วยหา เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดค้นหาใต้น้ำทราบข้อมูลก็ช่วยกันลงค้นหาจนเกือบหมดแรงกระทั่งเวลา 18.30 น.จึงขอกำลังเสริมจากหน่วยงานอื่นพร้อมรถส่องแสงสว่างเครื่องเติมอ๊อกซิเจน เพื่อระดมค้นหาต่อเนื่องจากนั้นทีมค้นหาได้ปูพรมลงค้นหาอีกรอบกระทั่งเวลา 19.45 น.จึงพบร่างของผู้สูญหายจมอยู่ใต้น้ำบริเวณกลางบ่อลึกกว่า 10 เมตรจึงนำร่างขึ้นมาตรวจพิสูจน์เบื้องต้นไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายแต่อย่างใด โดยก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาใต้น้ำจะลงค้นหาได้จุดธูป 9 ดอกบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางขอให้ช่วยเปิดทางให้พบร่างผู้สูญหายซึ่งใช้เวลาค้นหาทั้งหมดกว่า 8 ชั่วโมง

หลังจากเจ้าหน้าที่พบร่างผู้สูญหายแล้วได้นำขึ้นมาบนบกเพื่อตรวจพิสูจน์ ระหว่างนั้นนางทองคำ อินสว่าง อายุ 60 ปีภรรยาและลูกสาวพากันร้องไห้โฮด้วยความเสียใจนางทองคำ เล่าว่านายชำนาญ สามี มีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งไขมัน ความดัน เบาหวาน และเมื่อไม่นานมานี้ นายชำนาญ เคยเกิดอาการวูบ เพราะเบาหวานขึ้น จนต้องนำส่งโรงพยาบาลรักษาตัวอยู่หลายวัน โดยปกติตนและสามีจะมาเฝ้านาข้าวซึ่งตนเช่าที่นาเขาทำ ช่วงเวลาว่างสามีก็จะมาวางข่ายดักปลาเพื่อเอาไว้ทำอาหารกินกันในครอบครัวบางครั้งเหลือกินก็เอาไปขายบ้าง กระทั่งมาวันนี้สามีออกจากบ้านตั้งแต่เช้าเพื่อมาดูตาข่ายที่วางดักปลาเอาไว้ว่าจะมีปลาติดข่ายพอให้ครอบครัวทำกับข้าวหรือไม่ กระทั่งใกล้เที่ยงไม่เห็นสามีกลับบ้านจึงตามมาดูเพราะวันนี้ตนไม่ได้มาด้วยเหมือนทุกครั้งเพราะตนปวดหลังมาไม่ไหว เมื่อมาถึงกลับไม่เห็นสามีจึงออกตามหาและขอให้หน่วยกู้ภัยช่วยค้นหาและพบว่าเสียชีวิตอยู่ในน้ำ สาเหตุคาดว่าขณะที่สามีนั่งเรือพายดูข่ายดักปลาแล้วโรคประจำตัวกำเริบทำให้วูบตกเรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ทำให้จมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับแพทย์เวร โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช ชันสูตอย่างละเอียดแล้วญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตจึงมอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาตามประเพณีต่อไป