หนุ่มคลั่งถือขวานอาละวาด รับสารภาพเครียดถูกตัดน้ำประปา รับเสพยา - ป่วยจิต
7 ก.ย. 2566, 14:34
จากกรณีเหตุการณ์นายธนะชัย วิบูลย์พันธ์ อายุ 29 ปี เกิดอาการคลุ้มคลั่งถือขวานบุก สนง.การประปาส่วนภูมิภาค อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ไล่ฟันเจ้าหน้าที่และชาวบ้านในสำนักงานจนหนีกระเจิงและได้ชิงรถ จยย.ของชาวบ้านก่อนไปชิงรถยนต์ของตำรวจสายตรวจหลบหนีข้ามอำเภอจาก อ.ปากพนัง มาจนมุมที่ใน ม.วลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราชเมื่อบ่าย 6 ก.ย.นั้นและถูกตำรวจคุมตัวไปสอบสวนปากคำที่ สภ.ปากพนัง นั้น
ล่าสุดจากการสอบสวนปากคำนายธนะชัย ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า สาเหตุที่เครียดตนคลุ้มคลั่งอาละวาดในครั้งนี้เพราะบ้านที่ตนอยู่อาศัยโดนตัดมาตรน้ำประปา ตนกำลังจะเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ แต่พบว่าน้ำไม่ไหล เมื่อออกมาพบว่ามาตรน้ำประปาถูกเจ้าหน้าที่มาตัดไฟเสียแล้ว จึงสวมเสื้อคว้าได้ขวานรีบเดินทางมาเพื่อทำร้ายเจ้าหน้าที่ประปาที่ตัดมาตรฐานน้ำบ้านของตน จนเรื่องลุกลามบานปลายดังกล่าว เจ้าหน้าที่ทำการตรวจปัสสาวะนายธนะชัย พบว่าปัสสาวะสีม่วงและมีสารเสพติดในปัสสาวะ ซึ่งนายธนะชัย ยอมรับว่าเสพยาเสพติด (ยาบ้า) มาเมื่อ 3-4 วันก่อน ทางตำรวจส่งปัสสาวะตรวจพิสูจน์แยกสารเสพติดตามขั้นตอนอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้งหนึ่ง และจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช อันเนื่องมาจากการเสพติด
นายชัฏ ชูพงศ์ ผู้จัดการสำนักงานการประชาภูมิภาค อ.ปากพนัง กล่าวว่า ตามปกติในการตัดมาตรน้ำนันทางการประปาส่วนภูมิภาคมีระเบียบชัดเจนว่าหากผู้ใช้น้ำค้างค่าน้ำประปาเกิน 3 เดือน จะถูกตัดมาตรน้ำ แต่ในทางปฏิบัติทางการประปาส่วนภูมิภาคจะยืดระยะเวลาให้อีก 1 เดือน รวมเป็น 4 เดือน หลังจากนั้นจะยังไม่ไปตัดมาตรน้ำทันที หากยังไม่ยอมจ่ายจะทำหนังสือเตือน จนขั้นตอนสุดท้ายจะแจ้งให้ผู้ใช้น้ำทราบและให้เซ็นหนังสือรับทราบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรว่าเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องตัดมาตรน้ำ จึงจะทำการตัดมาตรน้ำต่อไป ในกรณีของนายธนะชัย ผ่านระยะเวลาและกระบวนการทุกขั้นตอนหมดแล้ว เมื่อเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นในลักษณะนี้ตนก็ต้องแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกและพยายามฆ่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนตำรวจและชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายก็แจ้งความแจ้งความดำเนินคดีกับนายธนะชัย เช่นเดียวกัน ซ่างมีทั้งข้อหาพยายามฆ่า บุกรุกทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ชิงทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์ รวมตำรวจจะดำเนินคดีในข้อหาพกพาอาวุธ (ขวาน) ไปในสถานที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและ พรบ.ยาเสพติดอีกด้วย