เมื่อเวลา 03.30 น.วันที่ 10 ก.ย.66 ร.ต.ท.ชัยณัฐ ประทีปแก้ว รอง สว (สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถกระบะชนคนเดินเท้าริมถนนเสียชีวิตคาที่ บริเวณถนนราชดำเนิน หน้าวัดสระเรียง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้ง จึงพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช , เจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต๊กตึ้งนครศรีธรรมราช รีบเดินทางไปที่เกิดเหตุร่วมกันชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต

เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ต สีน้ำตาล ทะเบียน กท -8324 กระบี่ สภาพเสียหลักพลิกตะแคงขวาปีนฟุตบาธริมถนน ชนเสาไฟ 12 นักษัตรหักโค่นขาดสองท่อน ริมถนนพบศพผู้ตายชื่อ น.ส.สุภัทรา หรือ เตี้ย บุญเกิด อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2156/22 ซอยหลังวัดใหญ่ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพร่างเละแขนขา คอหัก ลำตัวหน้าท้องเป็นแผลเหวะไส้ทะลักออกมาอย่างสยดสยอง ส่วนแขนข้างขวาขาดหลุดจากไหล่ ส่วนเสื้อผ้าขาดวิ่น และบนถนนยังพบเศษชิ้นเนื้อผู้เสียชีวิตกระเด็นเกลื่อน เจ้าหน้าที่จึงต้องเดินเก็บเศษชิ้นเนื้อผู้เสียชีวิตรวมโดยเจ้าหน้าที่พบร่องรอยรถกระบะชนรถแล้วลากศพไปไกลเกือบ 100 เมตร

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบคนขับกระบะคันสอบสวนทราบชื่อนายศุภฤทธิ์ สุขเกิด อายุ 26 ปี บ้านอยู่ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ทำงานร้านกระจกแห่งหนึ่งใน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยยืนรอมอบตัวให้การเบื้องต้นกับตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถยนต์กลับจาธุระหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช มุ่งหน้ากลับบ้านพัก เมื่อถึงที่เกิดเหตุรถเสียหลักชนร่าง น.ส.สุภัทรา ที่เดินริมถนน ทำให้เสียชีวิตคาที่ดังกล่าว เนื่องจากมองไม่เห็น อย่างก็ตามตำรวจคุมตัวนายศุภฤทธิ์ ไปโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อตรวจว่ามีปริมาณแอลกอฮอในเลือดของคนขับหรือไม่ เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงการชนครั้งนี้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ต่อไป

นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบนายจินตวัฒน์ มุสิกะ อายุ 45 ปี สามีผู้ตายพร้อมลูกสาววัย 4 ขวบ ยืนดูศพของภรรยาในที่เกิดเหตุด้วยความโศกเศร้าเสียใจ โดยนายจิตวัฒน์ ให้การกับตำรวจว่า น.ส.สุภัราทรา หรือ เตี้ย ภรรยาของตน มีอาชีพเก็บของเก่าขาย ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 03.00 น.ภรรยาออกจากบ้านเช่าหน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพียงลำพังคนเดียว เพื่อเดินเก็บหาของเก่าตามถังขยะต่างๆริมถนนสายราชดำเนิน ไปขายเลี้ยงครอบครัว เมื่อเดินเก็บขยะริมถนนถึงที่เกิดเหตุมีรถยนต์คันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วสูงแล้วเสียหลักชนร่างภรรยา เสียชีวิตดังกล่าว

นายจิตวัฒน์ ให้การอีกว่า ปกติช่วงกลางวันทุกวันภรรยาของตนจะพาลูกสาววัย 4 ขวบ เดินเก็บหาของเก่าทุกครั้ง แต่กลางดึกคืนคืนนี้ภรรยาของตนไม่ได้พาลูกสาววัย 4 ขวบ ออกไปเก็บของเก่าด้วย ลูกสาวของตนจึงรอดปลอดภัยครั้งนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการชันสูตรพลิกศพเสร็จแล้วได้มอบศพให้กับญาตินำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหน้าพระธาตุ ถนนราชดำเนิน และคุมตัวนายศุภฤทธิ์ คนขับ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.