วันที่ 14 ก.ย.66 น.ส.อรอนงค์ แซ่เลี่ยว อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145/1 หมู่ 5 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นำคลิปกล้องวงจรปิดพร้อมกับร้องผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 19 ก.ค.66 ที่ผ่านมา ด.ช.อภิมงคล แซ่เลี่ยว อายุ 13 ปี น้องชายของตน เรียนชั้น ม.1 โรงเรียนวัดตรีมิตร ถูกผู้ชาย อายุ 30 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ มาด้วยความเร็วสูง สวนเลนพุ่งชน ด.ช.อภิมงคล น้องชายตน ได้รับบาดเจ็บหน้าร้านชำ ริมถนนสายนครศรี – ปากพนัง ฝั่งเข้าเมือง หมู่ 5 ต.ท่าไร่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านของตน จนน้องชายของตนได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุคนชนไม่ได้หลบหนีไปไหน และไม่ได้เข้ามาสอบถามอาการบาดเจ็บหรือช่วยเหลือน้องชายของตนแม้แต่น้อย มีเพียงเจ้าของร้านชำที่วิ่งเข้าช่วยเหลือน้องชายตน ซึ่งน้องชายของตนได้รับบาดเจ็บขาข้างซ้ายหักไม่สามารถลุกขึ้นได้ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยนำส่งโรงพยาบาล

น.ส.อรอนงค์ เล่าอีกว่า หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สภ.เมือง เจ้าของคดี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบสวนคนขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งยอมรับสารภาพว่า ขี่รถจักรยานยนต์สวนเลนชนน้องชายของตนได้รับบาดเจ็บจริง อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันเกิดเหตุ คนขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ได้ให้การช่วยเหลือ ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ ไม่แสดงความรับผิดชอบ หรือเยียยาแม้แต่บาทเดียว แม้กระทั้งน้องชายรักษาอาการบาดเจ็บ 3 วัน ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช คู่กรณีก็ไม่มาเยี่ยมสักครั้ง 

“ ส่วนคดีผ่านมา 2 เดือนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ อยากวิงวอนขอความเห็นใจทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เจ้าของคดี เร่งรัดคดีให้น้องชายด้วย ยอมรับว่าเดือดร้อนมาก ค่ารักษาพยาบาลของน้องชายรวมแล้วกว่า 3 หมื่นบาท ต้องรับผิดชอบเอง เพราะทราบว่ารถจักรยานยนต์ของคู่กรณีไม่มี พรบ.จึงวิงวอนขอความเห็นใจคู่กรณี แสดงความรับผิดชอบ เยียวยาช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาลด้วย ส่วนอาการน้องชาย แพทย์ช่วยเหลือผ่าตัดดามเหล็กที่ขา และอนุญาตให้กลับบ้านแล้ว แต่ยังคงนัดตรวจอาการอยู่ 

ขณะที่นายจำรัส เรืองศรี อายุ 79 ปี ตาของ ด.ช.อภิมงคล ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ด.ช.อภิมงคล เป็นหลานชายคนที่ 4 ในจำนวนหลานรวม 5 คน ส่วนพ่อแม่ของหลานทั้ง 5 คน เสียชีวิตทั้งสองคนมานานกว่า 5 ปีแล้ว ซึ่งภาระค่าใช้จ่ายทุกอย่างในครอบครัว อยู่ที่ น.ส.อรอนงค์ หลานสาวคนโต และเป็นพี่สาวคนโตของ ด.ช.อภิมงคล ซึ่งทำงานที่กรุงเทพมหานคร