ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างอิงสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA)ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและเขื่อน 2 แห่งแตกในเมืองเดอร์นาทางภาคตะวันออกของลิเบีย อยู่ที่ 11,300 ราย มีผู้สูญหาย 10,100 คน ซึ่งขณะนี้การค้นหายังคงดำเนินอยู่ หลายฝ่ายคาดว่าทีมกู้ภัยจะเจอศพเพิ่มอีก ทีมกู้ภัยอยู่ระหว่างค้นหาในบริเวณใต้ซากอาคารบ้านเรือนและค้นหาในทะเลเมดิเตอเรเนียน เพื่อเก็บกู้ศพ ขณะที่ความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคารบ้านเรือนเริ่มริบหรี่ลงทุกขณะ

 

 เจ้าหน้าที่กู้ภัยคนหนึ่งจากทีมกู้ภัยตูนีเซีย กล่าวในการประชุมกับทีมกู้ภัยจากรัสเซีย กลุ่มประเทศอาหรับ ตุรกีและอิตาลีว่าศพหลายศพเปื่อยเน่าอยู่ในทะเล ซึ่งพอถึงจุดหนึ่งศพอาจจะเปื่อยเน่ากระทั่งไม่อาจเก็บกู้ขึ้นมาจากทะเล

นอกจากนี้ ชาวบ้าน รวมถึงเด็ก 300,000 คน เสี่ยงได้รับผลกระทบจากโรคที่มากับน้ำท่วม เช่น โรคอหิวาตกโรค โรคท้องเสีย ภาวะทุพโภชนาการและภาวะขาดน้ำ อีกทั้งเสี่ยงได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงต่างๆ หรือกระทั่งถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงด้วย

ชาวบ้านกว่า 40,000 คนไร้ที่อยู่อาศัยทั่วทั้งพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของลิเบียนับแต่ฝนตกหนักหลังถูกพายุแดเนียลพัดถล่มเมื่อวันที่ 10 กันยายน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ ระบุว่า ผลกระทบจากพายุ ซ้ำเติมปัจจัยลบอื่นๆที่มีอยู่ก่อนแล้ว โดยเฉพาะระบบสาธารณูปโภคเช่นเขื่อนมีสภาพเก่าแก่และชำรุดทรุดโทรม การที่ทางการลิเบีย โดยเฉพาะสำนักงานอุตุนิยมวิทยาไม่เตือนภัยพายุให้ชาวบ้านทราบแต่เนิ่นๆ พร้อมทั้งอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่เสี่ยงก่อนพายุขึ้นฝั่ง นอกจากนั้นวิกฤตจากสภาพอากาศแปรปรวนที่เกิดขึ้นบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้นทั่วโลก