วันนี้ 19 กันยายน 66 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้เรียกประชุม ชุดคลี่คลายคดี ยิงสารวัตรแบงก์ ตำรวจทางหลวงโดยเป็นการประชุมผ่านวิดิโอคอนเฟอร์เร้นท์ ร่วมกับ พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัยรอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รอง ผบช. ภ.7 ร่วมด้วยกับเจ้าหน้าที่ กรมสรรพากร กรมบัญชีกลาง ป.ป.ช. ป.ป.ท. ปปง. ซึ่งมีการแยกประเด็นในการติดตามข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่าในการดำเนินการดังกล่าว ตอนนี้ได้มีการแยกส่วนร่วมกันในการทำงานเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างเร็วขึ้น ซึ่งส่วนสำนวนของการสังหารสารวัตรแบงค์ ทาท่าน ผบ.ตร.ได้สั่งการให้นำสำนวนกลับไปให้กองบัญชาการสอบสวนกลางไปทำตั้งแต่วันแรกๆแล้ว โดยประเด็นว่าจะเริ่มต้นคดีใหม่จะเริ่มอย่างไร เพราะทางพนักงานสอบสวนกลางก็เป็นผู้สอบปากคำเอง โดยประเด็นเรื่องกล้องที่มีข้อมูลไม่ตรงกัน ยืนยันว่า ณ วันนั้นทางกองพิสูจน์หลักฐานได้ทำงานร่วมกันกับบริษัทเอกชน ในการกู้ไฟล์โดยได้มา 13 ตัว การจะมีคนไปเปลี่ยนข้อมูลทำได้ยากเพราะอยู่บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ เป็นหลัก ซึ่งจะดูว่าใครจะเข้าข่ายอะไรบ้างโดยกองปราบปรามจะเป็นผู้สรุป ในการแจ้งข้อกล่าวหา กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเรือนต่อไป

รองผบ.ตร. กล่าวต่อว่า สำหรับในส่วนที่ตนเองดูแลคืองานด้านสืบสวน ซึ่งจะต้องใช้พื้นที่ภาค 7เป็นหลักร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวให้มาเสริม โดยจะทำงานร่วมกับ 5 หน่วยงานว่า การกระทำของกำนันนก เข้าข่ายผิดกฏหมายของหน่วยงานใด โดยมีถึง 1,500กว่า โครงการ ซึ่งหากผิด 1-2 เรื่องก็ถือว่าเข้าข่ายโทษหนักแล้วซึ่งต่อจากนี้จะดูเรื่องการหลบเลี่ยงภาษี เส้นทางทางการเงิน การได้เงินมาอย่างน่าสงสัยในเรื่องใด ทำไมถึงร่ำรวยผิดปกติ และไม่ได้กำหนดกรอบเวลาว่าจะเสร็จเมื่อใด แต่จะไม่ช้าแน่นอนเพราะทางท่านนายกรัฐมนตรีได้สั่งการมาให้สืบสาวให้ถึงที่สุดโดยเรามีข้อมูลมามากแล้ว แต่ที่ผ่านมาได้ทำงานแยกส่วนวันนี้จึงได้มาประชุมเพื่อสรุปข้อมูลให้มาจบลงที่เดียวกัน ซึ่งแปลกที่จังหวัดนครปฐม กลับไม่มีการร้องเรียนอะไรเลยแสดงว่าเขาคุมกันอยู่ ซึ่งประชาชนที่เคยโดยยิงรถ ยิงรถเครื่องจักร ก็สามารถมาแจ้งดำเนินคดีให้มีการตรวจสอบติดตามได้ แต่ไม่ได้หวั่นใจเพราะทุกอย่างจะมีร่องรอยหลักฐานเหลือไว้ 

รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับกำนันนกจะโดยตรวจสอบในหลายเรื่องเพราะทุกเรื่องเชื่อมโยงกันหมด แต่หากมีการสงสัยว่าทำไมเมื่อมีการสอบสวนไปแล้วล่าช้า ต้องบอกว่าหากเราดำเนินคดีกับคนที่มีความพร้อม มีกำลัง มีอำนาจ เขาย่อมตั้งหลักที่จะต่อสู้ทางกฏหมาย ส่วนตำรวจที่จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาก็มีความรู้ทางกฏหมายหากรีบไปแล้วพยานหลักฐานไม่ครบ ก็อาจจะถูกฟ้องกลับได้จึงต้องทำให้แน่นไว้ แต่ยืนยันว่า การทำงานวันนี้ไม่ได้มีข้อขัดแย้งกับใครและมาทำงานร่วมกันเพื่อเอาคนทำผิดไปดำเนินคดีให้ได้ 

ทั้งจากการให้ข้อสังเกตของ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 มีประเด็นเรื่องการบุกยิงรถเครื่องจักร ซึ่งเคยเกิดคดีในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นลักษณะการข่มขูู่ผู้รับเหมาในจังหวัดนครปฐม อาจจะมีการเชื่อมโยงถึงคดียิงสารวัตรแบงก์ว่าจะเป็นเครือข่ายเดียวกัน แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถจับกุมร้ายหรือผู้อยู่เบื้องหลังได้