กรณีคดีคนร้ายลอบยิงนางเพชรรัตน์ หรือ มัด ชูจันทร์ อายุ 34ปี อาชีพทำนากุ้ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนางเพชรัตน์ กำลังยืนตกปลาบริเวณหน้าขนำ ที่พักของบ่อนากุ้ง หมู่ 2 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังเกิดเหตุมีนายเอกรัตน์ หรือ หนึ่ง ปานชัน อายุ 40 ปี สามี นั่งอยู่ในขนำกับลูกสาว 2 คน ได้ช่วยเหลือนำร่างภรรยา ขึ้นเรือหางยาวมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือ หมู่ 4 ต.ปากพูน เพื่อนำร่างภรรยาที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช แต่เมื่อถึงฝั่งนางเพชรรัตน์ เสียชีวิตเสียแล้ว เหตุเกิดช่วงเมื่อค่ำวันที่ 18 ก.ย.66 ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทางตำรวจยังไม่ทราบคาดมาจากเรื่องส่วนตัว ตามข่าวนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 19 ก.ย.66 พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยกำลังตำรวจชุดสืบสวน พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ตำรวจพิสูจน์หลักฐานและตำรวจชุด กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กว่า 10 นาย นำตัวนายเอกรัตน์ หรือ หนึ่ง สามีผู้ตาย พร้อมด้วยลูกสาวทั้งสองที่อยู่ในที่เกิดเหตุเมื่อคืนที่ลงเรือหางยาวจำนวน 4 ลำ เดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยต้องใช้เวลาในการเดินทางนั่งเรือหางยาวประมาณ 40 นาที ซึ่งอยู่บริเวณป่าชายเลน ริมทะเลอ่าวไทย โดยจุดเกิดเหตุเป็นขนำมีสะพานทอดยาวประมาณ 5 เมตรจากขนำมายังริมคลองที่ตัดผ่านขนำที่พัก เป็นจุดที่เกิดเหตุที่นางเพชรรัตน์ หรือ มัด ผู้ตาย ถูกยิงเสียชีวิต พบว่าที่บริเวณพื้นสะพานไม้ยังพบรอยเลือด 1 กอง และที่เสาเหล็กข้างสะพานก็พบรอยเลือดอีกด้วย

ตำรวจจึงให้นายเอกรัตน์ หรือ หนึ่ง จำลองเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยนายเอกรัตน์ ได้ให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนและลูกสาวคน กำลังนั่งกินบะหมี่ในขนำ ส่วนภรรยา ออกมานั่งตกปลาบนสะพานไม้หน้าขนำ กระทั้งได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงวิ่งออกมาดูพบร่างภรรยา นอนหงายจมกองเลือดบนสะพาน โดยศีรษะห้อยตกจากแผ่นสะพานไม้ ส่วนภรรยา ยังมีลมหายใจ จึงรีบนำร่างภรรยา ขึ้นเรือหางยาว ขับขึ้นฝั่งส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตระหว่างทาง

โดยนายเอกรัตน์  หรือ หนึ่ง สามีผู้ตาย ยังให้การอีกว่า ตนไม่ทราบสาเหตุจริงว่าใครเป็นคนยิงภรรยาเสียชีวิต และขอยืนยันด้วยความบริสุทธิใจว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นคนยิงภรรยาตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัย เพราะตนรักภรรยามาก ก่อนที่ตำรวจจะนำตัวนายเอกรัตน์ สามีของผู้ตาย นั่งเรือกลับฝั่งเพื่อสอบสวนปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

ในขณะที่นางสาวยุพดี วรรณดี อายุ 51 ปี น้าสาวผู้ตาย และญาติ เดินทางมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี มาดูที่เกิดเหตุด้วยและรอรับศพนางเพชรรัตน์ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช โดยนางสาวยุพดี กล่าวร่ำไห้กล่าวกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนและญาติ ไม่ยอมที่จะให้หลานสาวของตนตายฟรี ตำรวจต้องจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วต่อไป