เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ประธานหอการค้าชุมพร" มั่นใจ! โครงการแลนด์บริทด์ ชุมพร-ระนอง ส่งผลดีช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศเดินหน้าได้


23 ก.ย. 2566, 04:53



"ประธานหอการค้าชุมพร" มั่นใจ! โครงการแลนด์บริทด์ ชุมพร-ระนอง ส่งผลดีช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศเดินหน้าได้




วันนี้(22 ก.ย. 66) เวลา 15.00 น. นายกมล เรืองกูล ประธานหอการค้าจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า “โครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง เป็นโครงการใหญ่ระดับเมกะโปรเจค ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้น ประชาชนมีอาชีพ มีการจ้างงานในพื้นที่เพิ่มขึ้นหลายหมื่นตำแหน่ง อันจะไปส่งต่อดีทั้งเศรษฐกิจและสังคม ทั้งในส่วนของภาคใต้และของประเทศให้เป็นบวกเพิ่มมาก เพราะโครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง  เป็นโครงการเชื่อมโยง 2 ฝั่งทะเลเข้าด้วยกัน ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน จะทำให้เกิดพลังอย่างมหาศาล ที่ช่วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มีพลวัต เศรษฐกิจมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ โดยมีการก่อสร้างทั้ง 2 ฝั่งทะเล เช่น สร้างท่อส่งน้ำมัน สร้างรถไฟรางคู่และสร้างถนนมอเตอร์เวย์ระหว่างเมืองชุมพรกับระนองเข้าด้วยกัน 

จากที่เราได้มีการพูดคุยกับหอการค้าทั้ง 14 จังหวัดของภาคใต้และหอการค้าทั่วประเทศ ก็มีความเห็นชอบร่วมกันว่า โครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง ควรต้องมี จากที่ได้ติดตามข่าว เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้มีการเจรจากับทางนักลงทุนชาวซาอุดิอาระเบีย เขาก็พร้อมที่จะลงทุน ในโครงการฯ เพื่อให้เป็นศูนย์กระจายน้ำมันในภูมิภาคอาเชี่ยนแห่งใหม่ของภูมิภาคนี้ แล้วจะทำให้โครงการฯ นี้เป็น “ฮับ..การกระจายน้ำมันของโลกในภูมิภาค” ส่งผลดีที่เกิดขึ้นอย่างที่เราคาดไม่ถึงที่จะตามมา จากข้อมูลของโครงการฯ ก็พอทราบว่า โครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง หลังมีการศึกษาโครงการแล้วเสร็จก็จะเริ่มมีการเปิดประมูลโครงการในปี 2568 และจะเริ่มก่อสร้างเฟสแรก ราวๆปี 2569 และจะแล้วเสร็จภายในปี 2573 ในขณะเดียวกันทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก็มีโครงการรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อม 4 ภาคของประเทศไทยเข้าด้วยกัน ในส่วนของภาคใต้หากเราเดินทางจาก กรุงเทพ-ปาดังเบซาร์ (หาดใหญ่)  ซึ่งจะแล้วเสร็จในราวปี 2580 มีระยะทาง 970 กม. ทำให้การเดินทางประหยัดเงินและใช้เวลาน้อยลง จะส่งผลทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยดีขึ้นตามมา พี่น้องประชาชนก็จะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อันจะส่งผลให้ปัญหาของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ลดลงไปได้อีกด้วย และนี่คืออานิสงส์ของโครงการฯนี้  ซึ่งก็จะทำให้ประเทศไทยได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาลจาก โครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง

ต่อคำถามที่ว่า “มีความมั่นใจว่า โครงการนี้จะเกิดเป็นรูปธรรมได้จริงหรือไม่?” นายกมล เรืองกูล ประธานหอการค้าจังหวัดชุมพร ตอบว่า “เราค่อนข้างมีความมั่นใจ เพราะมีการศึกษาของโครงการมาก่อนแล้วโดยมีผลในเชิงบวกมากกว่าเชิงลบ ผลบวกก็คือ ส่งผลกระทบในด้านดีทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างมหาศาล” 

ต่อตำถามที่ว่า “จะส่งผลดี ต่อการจ้างงานหรือไม่?” นายกมล เรืองกูล ประธานหอการค้าจังหวัดชุมพร ตอบว่า “เติบโตขึ้นอย่างแน่นอน ตั้งแต่ปักเสาเข็มต้นแรก เงินลงทุนก็หมุนเวียนแล้ว ทำให้เกิดเงินสะพัดในพื้นที่ อันจะส่งผลดีทางด้านเศรษฐกิจตั้งแต่การก่อสร้างเริ่มต้น มีการจ้างงาน ทำให้ประชาชนทั้งในพื้นที่และต่างพื้นที่เข้ามาช่วยเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการฯ. แต่ก็อาจจะมีประชาชนที่ต้องการเสียประโยชน์บ้าง ภาครัฐก็ต้องเยี่ยวยาและเข้าดูแลให้ให้ดี” 

ต่อคำถามที่ว่า “โครงการนี้ จะมีอุปสรรค์ เช่น ประชาชนในพื้นที่ หรือเอ็น จี โอ ที่ไม่เห็นด้วยในโครงการนี้มีหรือไม่?” นายกมล เรืองกูล ประธานหอการค้าจังหวัดชุมพร กล่าวว่า “การทำประชาพิจารณ์โครงการ ในช่วงแรกประชาชนยังทราบข้อมูลไม่ครบถ้วนทุกด้าน และเมื่อได้รับข้อมูลแล้วรู้ว่าผลกระทบที่ได้รับมีอะไรบ้าง ภาครัฐก็ต้องปรับเพื่อให้มีความสมดุลซึ่งกันและกัน ที่สำคัญเมื่อประชาชนแรู้กับประชาชนว่า สิ่งไหนมีผลกระทบ? สิ่งไหนที่ประชาชนได้ประโยชน์? ภาครัฐต้องก็สร้างความเข้าใจให้ประชาชน แล้วเมื่อประชาชนมีความเข้าใจชัดเจนแล้วภาครัฐก็ช่วยปรับเขาก็รับได้ ที่สำคัญการเยี่ยวยาจากหน่วยงานภาครัฐก็ต้องมีความชัดเจน เท่าที่ทราบมี 2 หน่วยงานหลักคือ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. กับ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ก็ต้องบูรนาการประสานงานโครงการฯกันทั้ง 2 หน่วยงานให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อป้องกันความสับสนของประชาชน ลดความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในภายหลัง ซึ่งตรงนี้สำคัญมากๆ เมื่อประชาชนและโครงการมีเข้าใจกัน ก็ปรับเพื่อจะได้มีความสมดุลเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ปัญหาหลายๆอย่างของโครงการฯ.ก็จะไม่เกิดขึ้น สามารถเดินหน้า โครงการฯ.ไปได้ด้วยดี 

ที่สำคัญ หากเดินหน้าโครงการได้เร็วเราก็จะใช้ทุนในวันนี้เพียงเท่านี้  แต่หากเราเดินหน้าโรงการฯ.ช้าไป ก็ทำให้เรามีภาระต้นทุนที่สูงขึ้น และทำให้ประเทศเสียโอกาสหลายๆอย่างได้ในอนาคต เพราะเราต้องใช้งบประมาณขับเคลื่อนโครงการเพิ่มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ

 









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.