เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"สาวถูกอุ้มรีดทรัพย์" ยันตำรวจชื่อแงะหน้าเหมือนกับคนร้ายใส่หมวกที่เดินมาล็อคคอตนก่อนขึ้นรถ


25 ก.ย. 2566, 04:51



"สาวถูกอุ้มรีดทรัพย์" ยันตำรวจชื่อแงะหน้าเหมือนกับคนร้ายใส่หมวกที่เดินมาล็อคคอตนก่อนขึ้นรถ




วันที่ 24 กันยายน 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นางพัชรี วัย 48 ปี ถูกกลุ่มคนร้ายสวมแมสปิดบังใบหน้ากว่า 3 คน ขับรถเก๋ง Honda สีขาว เข้ามาในหมู่บ้านแล้วล็อคคอใช้ผ้าดำคลุมหัวแล้วอุ้มขึ้นรถ พาไปจากจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 50 เมตร แล้วพาหายตัวไปตลอดทั้งวัน และมีเรียกร้องเงินจากญาติให้นำเงินจำนวน 300,000 บาท มาไถ่ตัว เหตุเกิดภายในหมู่บ้านดอนเหียง หมู่ 10 ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 66 ที่ผ่านมา ที่ผู้สื่อข่าวได้เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

คืบหน้าล่าสุดวันนี้ เวลาประมาณ 10.00 น.ทางด้าน พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พรมเขียน ผู้กำกับการ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี โดยไม่ได้อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปติดตามบันทึกภาพ โดยหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมผู้สื่อข่าวได้สอบถามความคืบหน้าจากผู้กำกับ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ โดยให้เหตุผลว่าให้สัมภาษณ์ไม่ได้ ไม่มีอำนาจ และเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงชายบุคคลที่ชื่อแงะว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ ท่านผู้กำกับตอบเพียงสั้นๆว่ายังไม่รู้ เมื่อถามว่ากลุ่มคนร้ายที่เหลือเป็นตำรวจหรือไม่ ผกก.ตอบว่าไม่ใช่ และยังบอกอีกว่าผมพูดอะไรมากไม่ได้ ทุกอย่างสื่อรู้คำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว เพียงแต่อยากให้ผมเป็นคนพูดออกจากปากใช่หรือไม่ ขอให้เข้าใจผมด้วย แต่วันนี้จะพยายามติดตามจับกุมตัวมาให้ได้ภายในวันนี้ เนื่องจากรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วจะได้จบจบกันไป ส่วนเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงในประเด็นที่ผู้เสียหายสงสัยว่าฝ่ายตรงข้ามซึ่งเป็นบุคคลของพักพวกตำรวจคนที่ชื่อแงะรู้ได้อย่างไรเกี่ยวกับสำนวนการแจ้งความของผู้เสียหาย และความเคลื่อนไหวของฝ่ายผู้เสียหายท่านผู้กำกับตอบว่าเรื่องนี้ไม่ทราบ ถ้าติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาได้แล้วจะแจ้งให้สื่อทราบ

 

 

 

 

 

 

 



ด้านนางพัชรี อายุ 48 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ตนเองได้ถูกปล่อยตัวกลับมาบ้านแล้ว ได้เล่าให้ลูกสาวฟังว่าในระหว่างที่ตนถูกกลุ่มคนร้ายควบคุมตัวได้ยินเสียงวิทยุสื่อสารดัง และได้ยินในกลุ่มคนร้ายเรียกคนชื่อแงะ และลูกสาวยังได้บอกกับตนว่ามีตำรวจที่ชื่อแงะได้โทรมาบอกลูกสาวตนว่าแม่ถูกจับตัวไปเป็นตำรวจจากภาค 7 และลูกสาวได้ เปิดรูปภาพของตำรวจจาก Facebook ของคนชื่อแงะให้ตนดู เพราะลูกสาวตนรู้จักกับตำรวจที่ชื่อแงะก่อนหน้านี้ ส่วนตนไม่รู้จักคนชื่อแงะ ตนจึงมั่นใจและจำได้ว่าคนที่ใส่หมวกไม่ได้ปิดแมสแล้วลงจากรถเดินมาล็อคคอตน ก่อนที่พรรคพวกอีก 3 คนจะเดินเอาผ้าดำมาคลุมหัวแล้วเอาปืนจี้ศีรษะพาขึ้นรถไป หน้าเหมือนกันกับตำรวจที่ชื่อแงะที่ลูกสาวเปิดให้ดู นอกจากนี้ตนกับลูกและญาติยังสงสัยว่าทำไมความเคลื่อนไหวของการไปแจ้งความที่โรงพัก โดยพักพวกคนที่รู้จักกับตำรวจที่ชื่อแงะได้แชทข้อความเชิงมาข่มขู่พวกตนผ่านหลานคนรู้จัก โดยในข้อความแชทคนที่มาข่มขู่อ้างว่ารู้ข้อมูลจากตำรวจในโรงพักอักษรชื่อย่อ "ป" เรื่องนี้ตนมองว่าถ้ามีตำรวจทำแบบนี้จริงก็ไม่ถูกต้อง ตนมาร้องทุกข์แต่ข้อมูลถูกส่งต่อไปให้ฝ่ายตรงข้ามแบบนี้ ตนจะเชื่อใจตำรวจได้อย่างไร จะหวังพึ่งตำรวจได้อย่างไร และจะให้ตนไปสอบปากคำเพื่ออะไร จึงอยากให้มีการสอบสวนเรื่องนี้ว่าฝ่ายตรงข้ามรู้ข้อมูลของฝ่ายตนจากใคร และอยากให้ตำรวจช่วยติดตามตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมาให้ได้โดยเร็ว ตนหวั่นกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย ทุกวันนี้ต้องอยู่รวมกลุ่มกันหลายคน และเสียดายเงินที่เสียไป ตนต้องนำเงินที่ยืมเขามาไปคืนเงินจำนวนไม่ใช่น้อยๆ ตนขายของหาเงินเลี้ยงชีพหาเช้ากินค่ำ

 

  

 

 


ด้านนางสาวพรพิมล (ลูกสาวผู้เสียหาย) อายุ 28 ปี เล่าว่า หลังจากที่แม่ถูกจับตัวไปไม่นานก็มีตำรวจคนที่ชื่อแงะได้โทรศัพท์มาหาตนบอกว่าแม่ถูกจับตัวไปเป็นตำรวจภาค 7 รู้ได้อย่างไร และหลังจากที่แม่ถูกปล่อยตัวมา แม่ได้เล่าให้ฟังว่าในกลุ่มคนร้ายเอ่ยเรียกคนชื่อแงะ ตนจึงได้เปิดภาพในเฟซบุ๊คของตำรวจที่ชื่อแงะคนที่ตนรู้จักให้แม่ดู โดยแม่ยืนยันว่ามันเป็นคนเดียวกันกับคนที่ใส่หมวกแล้วเดินมาล็อคคอพาแม่ไปขึ้นรถ เนื่องจากคนนี้แม่จำหน้าได้แม่นเพราะไม่ได้สวมแมสปิดบังใบหน้า**

**หมายเหตุ:มีเสียงสัมภาษณ์ นางพัชรี (เสื้อสีแดงผู้เสียหาย) 2.นางสาวพรพิมล(ลูกสาว) ส่งมาด้วย และ(ช่วยเบลอหน้าผู้ให้สัมภาษณ์ด้วยครับ)

 

 

 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.