อบจ.ชุมพร มอบเงิน 20.5 ล้านบาทสนับสนุน รพ.ชุมพรฯ.ตั้งศูนย์โรคหัวใจ
25 ก.ย. 2566, 13:33
วันนี้(25 ก.ย. 66) เวลา 9.00 น. ณ ห้องประชุมกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ชั้น 3 อบจ.ชุมพร ได้เปิดงานแถลงข่าว "อบจ.ชุมพร อุดหนุนเงินจัดตั้งศูนย์โรคหัวใจ ให้แก่ รพ.ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ โดยมี นายวิสาห์ พูลศิริรัตน ผวจ.ชุมพร ,นายนพพร อุสิทธิ์ นายก.ฯ อบจ.ชุมพร ,นพ.อนุ ทองแดง นายแพทย์สาธารณสุข จ.ชุมพร และ แพทย์หญิงปัทมพันธ์ อนันต์พงศ์ ผอ.รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ร่วมแถลง โดยมี สมาชิกสภา อบจ.ชุมพร หัวหน้าส่วนราชการ จ.ชุมพร ผู้นำเทศบาล-อบต. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตลอดจน ข้าราช อบจ.ชุมพร และสื่อมวลชนร่วมรายงานข่าวอย่างคับคั่ง
นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร กล่าวว่า หลังทราบข่าวว่า ทาง รพ.ชุมพรจะมีการจัดตั้งศูนย์โรคหัวใจ เพื่อให้บริการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยจากโรคหัวใจในพื้นที่ จ.ชุมพร ที่นับวันมีเพิ่มสูงขึ้น และข้อมูลจากท่าน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร ที่แจ้งว่า ปัจจุบันใน จ.ชุมพร มีผู้ป่วยโรคหัวใจที่เสียชีวิตโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 20 รายต่อปี ซึ่งเป็นการสูญเสียในอัตราที่สูงมากและไม่ควรจะมีการสูญเสียชีวิต ผมจึงได้นำเรื่องดังกล่าวมาเรียนปรึกษาเพื่อนสมาชิกของสภา อบจ.ชุมพรทราบ และเราจึงได้มีมติร่วมกันว่า ต้องตั้งงบประมาณเพื่ออุดหนุนในการจัดตั้ง "ศูนย์โรคหัวใจ" ที่ รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์จะตั้งขึ้นให้สำเร็จ เพราะถ้ารองบประมาณคงจะช้าเกินไป ประกอบกับโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ในปัจจุบันก็มีผู้ป่วยได้ทวีและมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเพื่อนสมาชิกสภา อบจ.ชุมพร จึงได้มอบเงินอุดหนุนในในวงเงิน 20.5 ล้านบาท เพื่อมอบให้แก่ รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ไปใช้ในการจัดตั้ง "ศูนย์โรคหัวใจ" ให้มีความเป็นจริงเร็วขึ้น อันจะเพื่อประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนใน จ.ชุมพรอีกทางหนึ่งด้วย
ทางด้าน นพ.อนุ ทองแดง นายแพทย์สาธารณสุข จ. ชุมพร กล่าวเสริมว่า งบประมาณที่ทาง จ.ชุมพรขอรับสนับสนุนจากรัฐบาล ก็น่าจะมีออกมาในช่วงต้นปี 2567 แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะมาขับเคลื่อนในการจัดตั้ง "ศูนย์โรคหัวใจ" ในเกิดขึ้นได้ ทาง รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จึงต้องขอรับบริจาคเงินจากประชาชน-ห้างร้าน เพื่อมาใช้ในการจัดซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม อันจะมาช่วยให้ "ศูนย์โรคหัวใจ" มีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยโรคหัวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ "ศูนย์โรคหัวใจ" จะได้มาช่วยดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจในพื้นที่ จ.ชุมพร และช่วยลดความสูญเสียจากเหตุกรณีที่มีผู้เสียชีวิตโดยเฉลี่ยของ จ.ชุมพรได้อีกทางหนึ่ง