สทนช. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำที่มหาสารคาม เตรียมพร้อมเฝ้าระวัง บูรณาการบริหารจัดการน้ำให้ประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอ
27 ก.ย. 2566, 09:31
ที่ห้องประชุมโครงการชลประทานจังหวัดมหาสารคาม นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงพื้นที่เพื่อติดตามการดำเนินงานตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 เพื่อรองรับสถานการณ์เอลนีโญ พร้อมแนวทางการบริหารน้ำและผลการศึกษาแผนหลักแบบบูรณาการเพื่อบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนกลาง
นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานาทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า จากผลการศึกษาแผนหลักแบบบูรณาการเพื่อบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนกลาง จะมีแผนงานโครงการพัฒนาด้านน้ำทั้งหมดจำนวน 7,276 โครงการ ปริมาณน้ำตุ้นทุนเพิ่มขึ้น 1,321 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่ได้รับประโยชน์ 0.67 ลานไร่ และมีพื้นที่ได้รับการบรรเทาปัญหาอุทกภัย 0.68 ล้านไร่ ประชาชน 256,000 ครัวเรือน มีระบบประปาหมู่บ้านที่มีประสิทธิภาพ มีแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคที่เพียงพอ ระบบนิเวศป่าต้นน้ำได้รับการอนุรักษ์ฟื้นฟูอย่างเหมาะสม แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ( ปี 2566-2580) โดยดำเนินการตามลำดับความสำคัญให้สอดคล้องกับแผนแม่บทน้ำในแต่ละด้าน ที่สำคัญได้คัดเลือกโครงการนำร่องเพื่อใช้เป็นต้นแบบขยายผลแต่ละด้านของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยพิจารณาโครงการที่มีความพร้อมสามารถแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว จำนวน 13 โครงการ ซึ่งได้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นกว่า 33 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์รวมกว่า 124,510 ไร่ และมีครัวเรือนได้รับประโยชน์ 11,872 ครัวเรือน
ในส่วนของจังหวัดมหาสารคาม จากการลงพื้นที่ ต.โพนงาม อ.โกสุมพิสัย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ล่าสุด ปี 2565 พื้นที่กว่าร้อยละ 95 ของตำบลถูกน้ำท่วมขังนานกว่า 2 เดือน สาเหตุมาจากการระบายน้ำได้ช้า ลำน้ำชีมีสภาพเป็นคอขวด ทาง อบต.โพนงาม ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาระยะยาว ด้วยยกระดับถนนสาย บ้านโพนงามหมู่ 12 ถึง บ้านดอนจำปาหมู่ 7 ระยะทาง 8 กิโลเมตร ให้สูงขึ้นเป็นเส้นทางสัญจรในฤดูน้ำหลาก และปรับปรุงท่อระบายน้ำให้สามารถระบายน้ำได้เพียงพอ ซ่อมแซมคลองส่งน้ำ-ท่อส่งน้ำ และสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่ชำรุดเสียหาย และขุดลอกหนองน้ำเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ทำการเกษตร (นาปรังทดแทน) และอุปโภค-บริฅโภคในฤดูแล้ง
ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 17 แห่งของจังหวัดมหาสารคาม ภาพรวมมีปริมาณน้ำรวม 51.76 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 63.50 จากปริมาณความจุทั้งหมด 81.42 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำใช้การได้ 43 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 52.80
โดยได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมพร้อมกับมือสถานการณ์ในช่วงฤดูฝนปี 66 และ 3 มาตรการเพิ่มเติมเพื่อรองรับสถานการณ์เอลนีโญอย่างเคร่งครัด เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้ทันกับสถานการณ์