เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ มอบหมายให้ นายจุฬา บุญเย็น หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่ ต.ทาม อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่  สืบเนื่องมาจากปัจจุบันนี้ ระดับน้ำในลำน้ำชีได้เอ่อล้นเข้าท่วมนาข้าวของชาวนาในพื้นที่ ได้รับผลกระทบขยายวงกว้างกว่า 1,000 ไร่ ตลอดจนเส้นทางการสัญจรบางส่วน ซึ่งเป็นเส้นทางสายรอง ได้รับผลกระทบ น้ำเริ่มเอ่อล้น ท่วมขึ้นมา ทำให้การสัญจรเป็นไปด้วยความลำบาก

ขณะเดียวกัน ชาวนาในพื้นที่ได้เร่งเก็บเกี่ยวข้าวนาปรัง ซึ่งได้ปลูกไว้ก่อนหน้านี้  ซึ่งต้องขับเรือหางยาว กว่า 6 กิโลเมตร เพื่อเข้าไปเกี่ยวข้าวนำมาเก็บไว้ยังพื้นที่ เนื่องจากน้ำในท่วมนาข้าวบางส่วนในพื้นที่แล้ว 

จากการสอบถาม ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ทาม อ.กันทรารมย์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตนต้องขับเรือหางยาวเข้าไปเก็บเกี่ยวข้าวนาปรัง ที่ปลูกไว้ เนื่องจากเส้นทางการสัญจรไม่สามารถใช้การได้แล้ว ซึ่งตนมีที่นาในพื้นที่ได้รับผลกระทบประมาณ 7 ไร่ และของลูกสาวอีก 5 ไร่ ซึ่งตนต้องเร่งเก็บเกี่ยวข้าวบางส่วนออกมาให้หมด ก่อนที่จะโดนน้ำท่วมและไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งเหตุการณ์น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมนาข้าวและเส้นทางการจราจร เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เนื่องจาก พื้นที่ตำบลทาม อยู่ในพื้นที่ สองลำน้ำ ทั้งลำน้ำชี และลำน้ำมูล ซึ่งในช่วงนี้ ปริมาณน้ำในลำน้ำชีมีระดับที่สูงขึ้น ทำให้เอ่อล้นเข้าพื้นที่นาข้าวของตน

นายจุฬา บุญเย็น หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า  สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเรามีทรัพยากร ทั้งเรือ และอุปกรณ์ ต่างๆ ที่พร้อมสนับสนุน หากทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร้องขอ เมื่อยามเกิดภัย ซึ่งหากมีการร้องขอ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ ก็พร้อมให้การช่วยเหลือและสนับสนุน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่