ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกลงมาในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลเข้าเขื่อนลำปาวมากกว่าปกติ  จนปริมาณน้ำเกินระดับกักเก็บ 100% และล่าสุดยังมีน้ำไหลเข้าเพิ่มอีก 31 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ขณะนี้เขื่อนมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 2,041 ล้านลูกบาศก์เมตร (สถิติใหม่สูงกว่าปี 2554)  จากระดับกักเก็บ 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 103%  ซึ่งมีปริมาณน้ำเกินกักเก็บ 61 ล้านลูกบาศก์เมตร  

โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ได้ออกประกาศ ฉบับที่ 5 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566 เรื่องสถานการณ์น้ำเขื่อนลำปาวและแนวทางการระบายน้ำ ระบุว่า ขณะนี้ยังมีแนวโน้มที่จะมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างในปริมาณมากต่อเนื่องไปอีกไม่น้อยกว่า 7 วัน ทำให้ต้องมีการปรับการระบายน้ำ ผ่านอาคารระบายน้ำ (Service Spillway) เป็นวันละ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่หากยังไม่ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมีแนวโน้มลดลง ก็มีความจำเป็นจะต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านอาคารระบายน้ำเป็นวันละ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อรักษาเสถียรภาพของตัวเขื่อน ซึ่งจะทำให้ระดับในลำน้ำปาวด้านท้ายเขื่อนจะมีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  จึงขอประกาศให้ประชาชนด้านท้ายเขื่อนบริเวณสองฝั่งลำน้ำปาวติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขนย้ายสิ่งของที่อยู่บริเวณที่ต่ำขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหาย

นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ยืนยันว่า การเพิ่มปริมาณการระบายน้ำในช่วงนี้ เป็นการปรับเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได เพราะมีความจำเป็นต้องระบายเพื่อรักษาเสถียรภาพของตัวเขื่อน แต่จะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและคำนึงถึงพี่น้องเกษตรกรและประชาชนให้ได้รับผลกระทบพื้นที่น้อยที่สุด