ก้าวไกล ตั้งกระทู้ปมน้ำมันหาย 2 แสนลิตร -"บิ๊กทิน" แจงไม่ได้ละเลย คาดได้ข้อสรุปสัปดาห์หน้า
28 ก.ย. 2566, 16:20
วันนี้ ( 28 ก.ย.66 ) นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหลาโหม ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาต่อกรณีน้ำมันเชื้อเพลิงของ มทบ.18 สระบุรี สูญหายจากคลังกองโรงงานซ่อมสร้างรถยนต์ทหาร ศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์สายสรรพาวุธ กองทัพบกกว่า 2 แสนลิตร โดยระบุว่าความเสียหายดังกล่าวคิดเป็นเงินกว่า 6,000 ล้านบาท เชื่อว่ากองทัพทราบดีว่าใครเป็นผู้กระทำ และน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับ ผู้บังคับบัญชา โดยการให้สัมภาษณ์ของ นายสุทิน คลังแสง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ภายหลังได้รับรายงานว่าน้ำมันหาย ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในเชิงชื่นชมกองทัพว่ากำลังดำเนินการหาผู้กระทำผิดและสอบสวนอยู่ จึงมีความกังวลใจเพราะเป็นการให้สัมภาษณ์ที่ไม่มีการป้องปรามเจ้าหน้าที่ การให้คำชื่นชมไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ขณะเดียวกันเห็นว่าเคยเกิดน้ำมันหายเมื่อกันยายน 65 แต่เพิ่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบในเดือนมิถุนายน ปี 66 จนถึงขณะนี้ผ่านไปแล้ว 4 เดือน ยังไม่มีข้อเท็จจริงปรากฏ ไม่สามารถหาผู้กระทำผิดได้ ตนจึงเห็นว่าปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นควรนำไปสู่การปฏิรูปกองทัพ และตนเชื่อว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทำได้มากกว่าการออกมาปกป้องกองทัพ มีความสามารถที่จะกำหนดมาตรการป้องกันและกำหนดเวลาจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น
ด้าน นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่าการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในประเด็นดังกล่าว ตนเพียงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบและดำเนินการเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องรอดูผล หากพบไม่มีการลงโทษผู้กระทำผิด จะต้องมีการลงโทษ ย้ำว่าไม่ได้ปล่อยปละละเลย สำหรับกรณีน้ำมันหายได้รับทราบเรื่องเพราะเป็นกระบวนการตรวจสอบของกองทัพที่มีการตรวจสอบเป็นปกติอยู่แล้ว ตนเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่น่าจะมีเบาะแสว่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมีข้อพิรุธ เมื่อมีข้อพิรุธจึงมีการตรวจสอบระดับหนึ่ง โดยหน่วยภายใน และตรวจซ้ำอีกครั้งด้วยชุดตรวจพิเศษคือจเรทหาร และปรากฏผลอย่างที่ทราบว่ามีการสูญหายจริง โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลหาย 215,897 ลิตร ส่วนที่ สส.ก้าวไกล ตั้งข้อสังเกตว่าการตรวจสอบล่าช้า ชี้แจงว่าขั้นตอนการตรวจสอบเป็นไปตามระเบียบของกองทัพคือมีการตรวจซ้ำอีกรอบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อนลงโทษ ขณะนี้ กระบวนการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว เชื่อว่าภายในสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุปเรื่องนี้อย่างแน่นอน ส่วนเหตุใดจึงมีการตรวจสอบหลายรอบนั้น เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่กองทัพต้องหาผู้กระทำผิด และต้องเป็นผู้กระทำผิดจริง ซึ่งผู้กระทำผิดนั้นต้องมารับโทษความผิดทั้งทางอาญาและโทษทางวินัย ท้ายที่สุดต้องได้ทรัพย์สินของราชการคืน ดังนั้นเพื่อให้ได้ตัวบุคคลที่กระทำผิดจริง จึงอาจจะต้องมีความละเอียดในการตรวจสอบ อาจต้องใช้เวลา และขอยืนยันว่าไม่มีเจตนาปกป้องกองทัพ ขณะเดียวกันไม่ได้มีเจตนาต้องมาจับผิดหรือให้ร้ายโดยไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง
ส่วนมาตรการป้องกันน้ำมันหาย นายสุทิน ระบุว่าเมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้ว ได้ให้สอบสวนหาคนผิดมาลงโทษ เพื่อป้องปรามการกระทำผิด เป็นลักษณะเชือดไก่ให้ลิงดู นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ฟื้นระบบตรวจสอบภายในขึ้นมา และให้กองทัพเคร่งครัดรับไปดำเนินการ ต่อไปนี้กระบวนการตรวจสอบที่กองทัพใช้อยู่แล้วจะทำให้เคร่งครัดมากขึ้นด้วย 4 ขั้นตอน คือระดับหน่วยตรวจสอบกันเองภายใน ขั้นตอนที่ 2 ตรวจสอบทางการส่งกำลังบำรุง เช่น การเบิกน้ำมันจะไม่ใช่ดูเฉพาะเอกสารใบเสร็จการเบิกเท่านั้น แต่ต้องนำไปเปรียบเทียบกับการใช้จริงว่ามีการใช้จริงตามที่เบิกไปหรือไม่ ขั้นตอนที่ 3 ใช้ชุดตรวจหรือกรรมการตรวจจากจเรทหารลงไปดู หากชุดดังกล่าวตรวจสอบเสร็จ จะตรวจซ้ำด้วยขั้นตอนที่ 4 คือชุดตรวจพิเศษ เป็นการตรวจสอบ 4 ขั้นตอนซึ่งจะกำกับเคร่งครัดขั้นตอนต่าง ๆ นี้ ให้เป็นมาตรการที่ต้องใช้อย่างจริงจังต่อไป เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตดังกล่าวเกิดขึ้นอีก