วันนี้ ( 1 ต.ค.66 ) นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ได้คาดการณ์แนวโน้มฝุ่นละอองปี 2567 จะมีความรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา โดย พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กำชับให้เตรียมการรับมือและมาตรการป้องกันแก้ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 ปี 2567 อย่างเร่งด่วน เนื่องจากรัฐบาลให้การแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นวาระแห่งชาติที่มีความรุนแรงขึ้นทุกปีและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยคณะกรรมการควบคุมมลพิษได้มีมติเห็นชอบมาตรการการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ปี 2567 ที่เน้นให้ความสำคัญกับการกำหนดพื้นที่เป้าหมายแบบมุ่งเป้าลดพื้นที่เผาไหม้ในพื้นที่เผาซ้ำซาก คือ 10 ป่าอนุรักษ์ 10 ป่าสงวนแห่งชาติ โดยเน้นตรึงพื้นที่ จัดระเบียบควบคุมผู้ใช้ประโยชน์ ทำกติการ่วมกันระหว่างรัฐและเอกชน เพิ่มประสิทธิภาพการบัญชาการสถานการณ์ไฟป่า ตั้งจุดตรวจสกัดเฝ้าระวังการเข้าออก ลาดตระเวน พร้อมดึงประชาชนเข้ามาเป็นแนวร่วม สำหรับพื้นที่เกษตรเผาไหม้พัฒนา “ระบบตรวจสอบย้อนกลับ” และเร่งนำระบบการรับรองผลผลิตทางเกษตรแบบไม่เผา (GAP PM 2.5 Free) มาใช้ โดยเฉพาะรอบโรงไฟฟ้าชีวมวลจะบริหารจัดการและเพิ่มมูลค่าเศษวัสดุการเกษตร สร้างกลไกการบริหารจัดการระดับชาติและระดับจังหวัด โดยตั้งคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อสั่งการระดับชาติและศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัดแบบถาวร ยกระดับการเจรจาเป็นระดับทวิภาคีและใช้เงื่อนไขทางการค้าเพื่อลดปัญหาหมอกควันข้ามแดน สื่อสารให้ตรงจุดและต่อเนื่อง รวมถึง ดึงภาคเอกชนร่วมลงทุนแก้ปัญหาโดยให้สิทธิประโยชน์และแรงจูงใจตอบแทนมีเป้าหมาย คือ พื้นที่เผาไหม้ 10 ป่าอนุรักษ์ 10 ป่าสงวนลดลงร้อยละ 50 // พื้นที่เกษตรกรรมเผาไหม้ ลดลงร้อยละ 50 // ค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง PM2.5 ลดลงร้อยละ 40 และสุดท้าย จำนวนวันที่ฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐาน ลดลงร้อยละ 30

ทั้งนี้ คณะกรรมการควบคุมมลพิษ ยังได้เห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการแห่งชาติด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่ง หมอกควัน และฝุ่นละออง โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธานและเห็นชอบกับกลไกการบริหารจัดการในระดับพื้นที่ โดยให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัดเพื่อแก้ปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่ง หมอกควัน และฝุ่นละอองในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยให้กระทรวงทรัพย์ฯเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาต่อไป